พฤติกรรมการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามหลักอิทธิบาท 4 ในยุค NEW NORMAL ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพ 2) การเปรียบเทียบ และ 3) เสนอแนวทางการแก้ปัญหาพฤติกรรมการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ตามหลักอิทธิบาท 4 ในยุค NEW NORMAL ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย การวิจัยเป็นแบบวิธีวิทยาการวิจัยแบบผสม ได้แก่ เชิงปริมาณ และคุณภาพ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 300 คน กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้บริหาร และครูผู้สอนสาระหน้าที่พลเมือง จำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าความถี่ หาค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
1. พฤติกรรมการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมืองฯ ตามหลักอิทธิบาท 4 ในยุค NEW NORMAL ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และรายด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ 1) ด้านความเพียร 2) ด้านการไตร่ตรอง 3) ด้านความคิด 4) ด้านความพอใจ ตามลำดับ
2. ผลการเปรียบเทียบระดับพฤติกรรมการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมืองฯ ตามหลักอิทธิบาท 4 ในยุค NEW NORMAL ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองหนองคาย จำแนกตามเกรดเฉลี่ย และอาชีพผู้ปกครอง โดยภาพรวม และรายด้านมีระดับการปฏิบัติไม่แตกต่างกัน
3. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียนรู้สาระหน้าที่พลเมืองฯ ตามหลักอิทธิบาท 4 ในยุค NEW NORMAL ในแต่ละข้อดังนี้ 1) ด้านความพอใจ ควรมุ่งเน้นจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนตระหนักและสนใจในการเรียน เกิดความอยากรู้อยากเรียน 2) ด้านความเพียร ควรมุ่งเน้นจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้ 3) ด้านความคิดควรมุ่งเน้นสอนให้ผู้เรียน รู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ และมีแบบแผน 4) ด้านการไตร่ตรอง ควรมุ่งสอนให้นักเรียนใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างมีเหตุผล
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542. กรุงเทพฯ: สยามสปอรต์ ซินดิเคท จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
พระจักร จกฺกวโร (เหมือนปืน). (2561). การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระพัฒนพล สิริสุวณฺโณ (เพ็ชรไชย). (2562). การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดอุบลราชธานี. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาฉัตรชัย ธมฺมวรเมธี (ทันบาล). (2560). ศึกษาการจัดการเรียนการสอนตามหลักอิทธิบาท 4 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาบรรจง ติสรโณ (ศรีสุข). (2560). ศึกษาการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาทธรรม 4 ในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนปริยัติคุณรสวิทยา อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระสุรศักดิ์ ตปสีโล (ชาวพงษ์). (2562). การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครูของครูโรงเรียนศรีรัตนวิทยา อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. New York: Harper and Row Publication.