การจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตและชุมชนของโรงเรียนในตำบลไทรย้อย

Main Article Content

อัจฉรา ศรีพันธ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวคิดหลักที่ใช้ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนในตำบลไทรย้อย และ 2) พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตและชุมชนที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้เรียนในตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) กลุ่มเป้าหมายการวิจัย คือผู้บริหาร ครู นักเรียนจาก 7 โรงเรียนในชุมชน ผู้นำชุมชน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 440 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการประชุมกลุ่ม การสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกต การจัดกิจกรรมการเรียนรู้การประเมินผลการเรียนรู้แบบพหุมิติ เครื่องมือในการวิจัยคือ แนวคำถามในการสัมภาษณ์ แนวคำถามในการประชุมกลุ่ม แนวทางการสังเกตแบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม แบบประเมินการเรียนรู้พหุมิติ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ตรวจสอบความน่าเชื่อถือด้วยการตรวจสอบสามเส้า (Triangulation)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แนวคิดหลักที่ใช้ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนต่างๆ ในตำบลไทรย้อย คือ แนวคิดการศึกษาบนฐานชุมชน (Community-Based Education) โจทย์ในการจัดการศึกษามาจากสภาพปัญหาและนโยบายการพัฒนาชุมชนของผู้นำชุมชนรูปแบบการจัดการเรียนรู้หลักคือ การบริการชุมชน (Service Learning) ในกิจกรรมเสริมหลักสูตรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนปัจจัยความสำเร็จในการจัดการศึกษาคือ ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างโรงเรียนและชุมชนในลักษณะของหุ้นส่วน (Mutual Collaborative Approach)
2. รูปแบบการจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตและชุมชนที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้เรียนคือ “ไทรย้อยโมเดล (SAIYOI Model)” ประกอบด้วย 1) จัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (S = Student Centered) 2) วางแผนการเรียนรู้ด้วยการสร้างแรงจูงใจที่ท้าทาย (A = Ambitious Plan) 3) ปฏิบัติการบนพื้นฐานสารสนเทศ (I = Information Based Operation) 4) มีจิตวิญญาณแห่งวัยเยาว์ในการเรียนรู้ (Y = Young Spirit) 5) การดำรงสถานะองค์กรเพื่อปวงชนของโรงเรียน (O = Organization for All) และ 6) นวัตกรรมเป็นหัวใจของการเรียนรู้ (I = Innovation at Heart)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ศรีพันธ์ อ. . (2022). การจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตและชุมชนของโรงเรียนในตำบลไทรย้อย. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 22(4), 117–130. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/254339
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Article)

เอกสารอ้างอิง

เทศบาลตำบลไทรย้อย. (2565). วิสัยทัศน์/พันธกิจ. เข้าถึงได้จาก https://www.saiyoi.go.th/vision.php

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). สภาวะการศึกษาไทย 2561/2562 การปฏิรูป การศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2565). (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 พลิกโฉมประเทศไทยสู่สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.

Barrett, M. S. (2012). An Introduction to Community-Based Learning. Retrieved from https://www.holycross.edu/sites/default/files/files/cbl/introduction_to_community-based_learning_17.pdf

Dede, C. (2009). Comparing Frameworks for 21st Century Skills. Boston: Harvard Graduate School of Education, 137(1), 2-8.

Howard, J. (2001). Service-Learning Course Design Workbook. Michigan: The Edward Ginsberg Center for Community Service and Learning.

Kindon, S., Pain and Kesby, M. (2007). Participatory Action Research Approaches and Methods Connecting people, participation and place. New York: Routledge.

Learning Liftoff. (2017). The Importance of Life Skills-Based Education. Retrieved from https://www.learningliftoff.com/the-importance-of-life-skills-based-education/

Macmillan Education. (2016). What are life skills?. Retrieved from http://www.macmillanenglish.com/life-skills/what-are-life-skills/

Melaville, A., Berg, A. C. and Blank, M. J. (2006). Community-Based Learning: Engaging Students for Success and Citizenship. Washington D.C.: Coalition for Community Schools.

UNICEF. (2003). Life skills: Implementation models. Retrieved from: https://www.unicef.org/lifeskills/index_10485.html