การพัฒนาตัวบ่งชี้ Disruptive Leadership สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Main Article Content

สำเร็จ นางสีคุณ
เสาวนี สิริสุขศิลป์
กนกอร สมปราชญ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบ Disruptive Leadership ของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ตรวจสอบโมเดลของ Disruptive Leadership สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed method research) แบบอธิบายตามกาลเวลา (sequential explanatory design) กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหาร และครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยวิธีกำหนดค่าพารามิเตอร์ 20:1 จำนวน 660 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-structured Interview) และแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยค่าคุณภาพของเครื่องมือวิเคราะห์ด้วยการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha coefficient) โดยใช้วิธีของครอนบาค (Cronbach) ค่าความเที่ยง จากผลการตรวจสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถามโดยภาพรวมเท่ากับ 0.975
ผลการวิจัยพบว่า
1. ค่าน้ำหนักองค์ประกอบของ Disruptive Leadership องค์ประกอบมีค่าตั้งแต่ 0.929-0.997 องค์ประกอบที่มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบในรูปคะแนนมาตรฐาน (Factor Loading) สูงที่สุดได้แก่ด้านความมุ่งมั่น (Persistent) คะแนนมาตรฐาน (Factor Loading) น้อยที่สุดได้แก่การเรียนรู้ตลอดเวลา (Lifelong Learning) มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบในรูปคะแนนมาตรฐาน (Factor Loading) เท่ากับ 0.929
2. การศึกษาระดับ Disruptive Leadership ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{x} = 4.63, S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความมุ่งมั่น (Persistent) (gif.latex?\bar{x} = 4.7, S.D. = 0.46) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านคิดสร้างสรรค์ (Creativity) (gif.latex?\bar{x} = 4.55, S.D. = 0.51)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นางสีคุณ ส. ., สิริสุขศิลป์ เ. . ., & สมปราชญ์ ก. . (2022). การพัฒนาตัวบ่งชี้ Disruptive Leadership สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 22(3), 249–260. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/255000
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Article)

เอกสารอ้างอิง

กุลธิดา กรมเวช. (2558). ความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทางานของพนักงาน: ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและการพัฒนา.วารสารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ, 7(2), 87-103.

ขจี พงศธรวิบูลย์. (2556). การพัฒนาแบบวัดคุณลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิตของนักศึกษาพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร. วารสารสภาการพยาบาล, 28(3), 43-54.

จุลศักดิ์ สุขสบาย และคณะ. (2560). การพัฒนาแบบวัดคุณลักษณะผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6. วารสารเกษมบัณฑิต, 8(1), 162-174.

เมธินี วงศ์วานิช รัมภกาภรณ์ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ. (2560). ผลการฝึกงานเพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมความมุ่งมั่นในการทำงานของนิสิตในรายวิชาฝึกงานของสาขาวิชาธุรกิจและคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 32(2), 55-64.

Carney, M. (2018). Reflections on Leadership in a Disruptive Age. London: Regent’s University London.

Creswell, J. W. (2011). Educational Research: Planning, Conducting, and Evaluating Quantative and Qualitative Research. New Jersey: Pearson Education International.

Hair, J. F., et al. (2010). Multivariate Data Analysis. (7th edition). New Jerse: Prentice Hall, Upper Saddle River.

Hogan, R., & Hogan, J. (2007). Hogan Personality Inventory manual. Tulsa, OK: Hogan Press.

Kao, R. (2018). Disruptive leadership: Apple and the technology of caring deeply—Nine keys to organizational excellence and global impact. New York: Productivity Press.

Khan, R. (2018). Disruptive Leaders. The definitive traits of leaders who are changing The world around us. Retrieved from http://www.risingkashmir.com/news/disruptiveleaders-326625.html