รูปแบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพ และแนวทางการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ 2) สร้างและตรวจสอบรูปแบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ และ 3) ประเมินความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นการวิจัยและพัฒนา วิธีดำเนินการวิจัยมี 3 ขั้นตอนคือ 1) ศึกษาสภาพและแนวทางการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มแบบแบ่งชั้น โดยดำเนินการเทียบสัดส่วนกลุ่มตัวอย่างจากจำนวนประชากรแต่ละภูมิภาค และศึกษาแนวทางเกี่ยวกับการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน และศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีด้านการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬา จำนวน 2 สถาบัน 2) สร้างและตรวจสอบรูปแบบโดยนำข้อมูลจากขั้นตอนที่ 1 มายกร่างรูปแบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาและตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบด้วยการสนทนากลุ่ม และ 3) ประเมินความเป็นไปได้ในการนำของรูปแบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาไปใช้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้านกีฬาในมหาวิทยาลัยราชภัฏ จำนวน 38 มหาวิทยาลัยๆ ละ 2 คน
สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพ และแนวทางการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ อยู่ในระดับดี
2. รูปแบบที่สร้างขึ้น ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ปัจจัยนำเข้า ประกอบด้วย ด้านบุคลากร ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องอำนวยความสะดวก ด้านการจัดการ และด้านส่วนผสมทางการตลาด 2) กระบวนการบริหารจัดการ ประกอบด้วย การวางแผน การจัดองค์กร การนำ และการควบคุม 3) ผลผลิต นักศึกษา บุคลากร และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ
3. การประเมินความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้น มีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้อยู่ในระดับมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560). แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6. กรุงเทพฯ: กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา.
ทวีศักดิ์ สว่างเมฆ. (2557). กลยุทธ์การจัดการกีฬาเพื่อสร้างเสริมสุขภาพของนิสิตนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
พงษ์เอก สุขใส และคณะ. (2557). รูปแบบการบริหารจัดการกีฬาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 16(4), 104-115.
พรพิมล รุ่งเรืองศิลป์. (2560). สภาพปัญหาการจัดการกีฬาเพื่อสุขภาพในมหาวิทยาลัยราชภัฏ. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
พิเชฐ สยมภูวนาถ. (2564). สภาพและแนวทางการสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการกีฬาในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ. Journal of Modern Learning Development, 6(4), 285-296.
ภาคภูมิ โชคทวีพาณิชย์ และคณะ. (2561). สภาพปัญหาการจัดการกิจกรรมทางกายของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 5(3), 262-273.
ภานุพันธ์ ลาภรัตนทอง. (2563). รูปแบบการจัดการกิจกรรมทางกายสำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล. (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วาโร เพ็งสวัสดิ์. (2553). การวิจัยพัฒนารูปแบบ. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 2(4), 1-15.
วิรุตม์ ประไพพักตร์. (2556). ปัจจัยพฤติกรรมผู้บริโภคและปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทเครื่องครัวในเขตอำเภอเมือง จังหวัดระยอง. (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
สมคิด บางโม. (2558). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม.
อรุณี จิระพลังทรัพย์. (2558). การพัฒนารูปแบบการจัดการกีฬาเชิงนันนทนาการของกรุงเทพมหานคร. (ดุษฎีนิพนธ์วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อัษ แสนภักดี. (2558). รูปแบบของปัจจัยด้านการบริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของกีฬาเพื่อความเป็นเลิศในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
Allen, F., Qian, J. & Qian, M. (2005). Law, finance, and economic growth in China. Journal of financial economics, 77(1), 57-116.
Eric, C. S., Stacey, A. H. & Simon, S. (2010). Sport Facility Operations Management. London: Elsevier Ltd.
Geraplangsub, A. & Gultawatvichai, T. (2019). Management guideline for public sports and recreation in an urban setting: case of bangkok, Thailand. PSAKU International Journal of Interdisciplinary Research, 8(1), 192-203.
Yamane, T. (1967). Statistics: an introductory analysis. (2nd ed). New York: Harper and Row.