พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

Main Article Content

ญาณาธร เธียรถาวร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และ 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 350 กลุ่มตัวอย่าง ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบตามความสะดวก
ผลการวิจัยพบว่า
1. สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 36-45 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้างทั่วไป ระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี และเป็นชาวเอเชีย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์หลักในการเดินทางเพื่อศึกษาหาความรู้ เดินทางกับเพื่อน ใช้รถมอเตอร์ไซค์และจักรยานเป็นพาหนะในการท่องเที่ยว มีความสนใจวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ใช้การสืบค้นข้อมูลการท่องเที่ยวจากสื่อออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, YouTube เดินทางช่วงวันหยุด-นักขัตฤกษ์ เวลาในการทำกิจกรรมต่อครั้งระหว่าง 1-2 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวต่อครั้ง 10,001-20,000 บาท พักโรงแรมหรือรีสอร์ท และมีประสบการณ์การเดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ 2-3 ครั้ง
2. แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาเทศบาลนครเชียงใหม่ พบว่า โดยมีค่าเฉลี่ยรวมของระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.54 แนวทางการพัฒนาด้านสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ ด้านการคมนาคมขนส่ง ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้านโบราณสถานและโบราณวัตถุ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และด้านกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา ตามลำดับ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เธียรถาวร ญ. . (2023). พฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 23(2), 17–36. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/258926
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Article)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2563). ข้อมูลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย. เข้าถึงได้จาก https://secretary.mots.go.th/policy/

________. (2563). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ. เข้าถึงได้จาก https://secretary.mots.go.th/category/60

________. (2563). รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) โครงการสำรวจข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเชิงลึกปี 2562. กรุงเทพฯ: อินทัช รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลแทนซี่.

________. (2564). สถิติด้านการท่องเที่ยวปี 2563. เข้าถึงได้จาก https://www.mots.go.th/news/category/592

เกศสุดา ไถงตระกูล, พระครูสุนทรสังฆพินิต และพูนชัย ปันธิยะ. (2561). การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา: กรณีศึกษา ชุมชนชายแดนแม่น้ำโขงตอนบนจังหวัดเชียงราย. วารสารการบริหารท้องถิ่น, 11(4), 131-143.

กรมการท่องเที่ยว . (2560). คู่มือการประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.

กัญจิรา วิจิตรวัชรารักษ์ และนภารัตน์ กิตติรัตนมงคล. (2565). กลยุทธ์การพัฒนากิจกรรมและเส้นทางท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา ยุคทวารวดีในเขตจังหวัดนครปฐม. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(12), 617-633.

ขวัญชนก สุวรรณพงศ์. (2564). พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาในจังหวัดภูเก็ตของนักท่องเที่ยวชาวไทย. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 7(3), 113-128.

ชมพูนุท ภาณุภาส และณัฏฐกิตติ์ ตันสมรส. (2565). การจัดการการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาในย่านไชน่าทาวน์กรุงเทพมหานคร. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 13(1), 1-16.

ณัฐพล แจ่มสุวรรณ และสุวัฒนา ธาดานิติ. (2565). ผลกระทบโรคระบาดโควิด-19 ต่อการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา: กรณีศึกษา วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารจังหวัดพิษณุโลก. Journal of Modern Learning Development, 7(11), 168-181.

ดวงรัตน์ โกยกิจเจริญ. (2562). พฤติกรรมการท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาของนักท่องเที่ยวไทยในจังหวัดภูเก็ต. วารสารปัญญา, 26(1), 76-85.

ทัศนีย์ ปิยะเจริญเดช, พระพงษ์ศักดิ์สนฺตมโน (เกษวงศ์รอด) และกรกต ชาบัณฑิต. (2564). มุมมองการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพุทธ. วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 15(2), 264-273.

ธนะชัย สามล และคณะ. (2565). การพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวอู่อารยธรรมทางพระพุทธศาสนาแบบครบวงจร จังหวัดนครปฐม. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(12), 586-600.

นพดล กันทะวงศ์ และศิรชญาน์ การะเวก. (2566) ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาของวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 10 (1), 211-232.

นาตยา เกิดเดชา. (2564). ความสำเร็จของการจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา วัดและพระอารามหลวง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม. วารสารวิชาการ การจัดการภาครัฐและเอกชน, 3(2), 75-86.

ประทีป พืชทองหลาง, เพราพิลาส ประสิทธิ์บุรีรักษ์ และญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง. (2561). วัดงามนามมงคล: แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาของวัดนามมงคลในเขตอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่. วารสารภาษาศาสนาและวัฒนธรรม, 7(1), 212-242.

ประทีป พืชทองหลาง, นิศรา จันทร์เจริญสุข และญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง. (2560). แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประดิษฐานพระเจ้าทันใจอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่. จันทรเกษมสาร, 23(45), 65-80.

พระมหาวีรศักดิ์ สุรเมธี และคณะ. (2566). การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะและลดความซึมเศร้าของผู้สูงอายุที่อยู่เพียงลําพังในเขตท่องเที่ยวเมืองรองภาคเหนือตอนบน. วารสารปัญญา, 30(1), 92-104.

มนชนก จุลสิกขี. (2562). แนวทางการจัดการการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาวัดในพื้นที่ฝั่งธนบุรี. วารสารวิทยาการจัดการปริทัศน์, 21(2), 203-210.

วนิดา ขำเขียว. (2562). การท่องเที่ยวเชิงแสวงบุญทางพระพุทธศาสนาอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 11(21), 123-134.

สุภัคชญา บุญเฉลียว, สามารถ บุญรัตน์ และพระครูพิพิธสุตาทร. (2564). COVID-2019: ฉากทัศน์การท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาในสังคมวิถีใหม่. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 21(4), 329-340.

Hair, J. F., et al. (2006). Multivariate Data Analysis. (6th ed). New Jersey: Prentice Hall.

Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. (3rd ed.). New York: Harper & Row.