รูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้โรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ ภาค 12
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้โรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 12 2) พัฒนารูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้โรงเรียนเอกชน 3) ประเมินรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้โรงเรียนเอกชน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 539 คน และผู้ให้ข้อมูลในการประเมินรูปแบบ จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม โดยสภาพปัจจุบัน มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และสภาพที่พึงประสงค์ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีการจัดเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNImodified) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบันของรูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้โรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ ภาค 12 โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปน้อย ได้แก่ ด้านการคิดอย่างเป็นระบบ ด้านพลวัตรการเรียนรู้ ด้านเรียนรู้ร่วมกันเป็นเป็นทีม ด้านมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ตามลำดับ ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อเรียงจากค่าเฉลี่ยมากไปน้อย ได้แก่ ด้านเรียนรู้ร่วมกันเป็นเป็นทีม ด้านมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ด้านพลวัตรการเรียนรู้ ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ด้านการคิดอย่างเป็นระบบ ตามลำดับ เมื่อเรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น พบว่า ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ด้านเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม ด้านมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ด้านพลวัตรการเรียนรู้ ด้านการคิดอย่างเป็นระบบ ตามลำดับ
2. ผลการพัฒนารูปแบบมีองค์ประกอบของรูปแบบดังนี้ ชื่อรูปแบบ วัตถุประสงค์ หลักการ และมีองค์ประกอบหลัก 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 2) การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม 3) มุ่งสู่ความเป็นเลิศ 4) พลวัตรการเรียนรู้ 5) การคิดอย่างเป็นระบบ
3. ผลการประเมินรูปแบบพบว่ารูปแบบมีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
จิราภรณ์ ผันสว่าง. (2562). ผู้นำกับการเป็นนักบริหารการศึกษามืออาชีพ. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
ธวัชชัย รัตตัญญู. (2551). การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียน สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม.
ธีรพันธ์ เชิญรัมย์, ประเทือง ภูมิภัทราคม และวรกฤต เถื่อนช้าง. (2565). รูปแบบองค์การแห่งการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. วารสารวิจยวิชาการ, 5(2), 183-196.
รุ่งรัชดาพร เวหะชาติ. (2548). การพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพทั้งองค์การของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. (วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
ศิริพร โงนสาย. (2552). ปัจจัยบรรยากาศโรงเรียนกับองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้ว. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2549). คู่มือการบริหารงานสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคล. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
เอกราช โฆษิตพิมานเวช. (2562). ความต้องการจำเป็นของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเอกศึกษาขอนแก่น สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ประจำปีงบประมาณ 2562. ขอนแก่น: สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น.
เอกราช โฆษิตพิมานเวช. (2564). ความต้องการของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเอกศึกษาขอนแก่น. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 21(2), 41-50.
Garvin, D. A. (2000). Building a Learning Organization. Harvard Business Review, 71(4), 78-91.
Gephart, M. A., et al. (1996). Learning Organizations Come Alive. Training and Development, 50(12), 34-44.
Keeves, P. J. (1988). Educational research, Methodology and measurement: An international handbook. Oxford: Pergamon Press.
Lussier, R. N. (2001). Leadership: Theory Application, Skill Development. Ohio: South Western College.
Marquardt, M. J. (2002). Building the Learning Organization. New York: McGraw-Hill.
Senge, M. (1990). The Fifth Discipline: the Art & Practice of the Learning Organization. London: Century Business.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. New York: Harper & Row.
