การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้สมรรถนะสูง ในการออกแบบกิจกรรมสะเต็มศึกษาสำหรับเด็กระดับปฐมวัยของนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้สมรรถนะสูงในการออกแบบกิจกรรมสะเต็มศึกษาสำหรับเด็กระดับปฐมวัยของนักศึกษา 2) ศึกษาผลการปฏิบัติตามกิจกรรม และ 3) แนวทางและข้อเสนอแนะจากจัดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาครุศาสตร์ จำนวน 58 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลปฏิบัติการเพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนมี 5 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นปฐมนิเทศ 2) ขั้นทำความเข้าใจ 3) ขั้นสร้างความคิดแนวใหม่ 4) ขั้นนำแนวความคิดไปใช้ในสถานที่จริง และ 5) ขั้นทบทวนความรู้และประเมินผลการจัดกิจกรรม
2. คะแนนรวมผลสัมฤทธิ์เฉลี่ยทางการเรียนเท่ากับ 10.67 โดยมีคะแนนเฉลี่ยรวมสูงสุดคิดเป็นร้อยละ 1.72 นักศึกษามีศักยภาพการเป็นผู้เรียนรู้สมรรถนะสูงของนักศึกษา โดยรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก นักศึกษามีสมรรถนะในการออกแบบกิจกรรมสะเต็มศึกษา โดยรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ
3. แนวทางและข้อเสนอแนะในการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนคือ ควรให้ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายและเหมาะสมสำหรับเด็กระดับปฐมวัยเพราะเด็กๆ ในสถานศึกษามีความแตกต่างในการเข้าร่วมกิจกรรม โดยการจัดการเรียนการสอนต้องเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอาจารย์ผู้สอนจะต้องแสวงหาแนวทาง วิธีการที่ชัดเจนมาใช้เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้มีบทบาทหรือมีส่วนร่วมอย่างตื่นตัวในการเรียนรู้ หรือการมีส่วนร่วมอย่างตื่นตัว
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
นาฏฤดี จิตรรังสรรค์. (2563). ถอดบทเรียนการจัดการเรียนรู้อิงสมรรถนะระดับประถมศึกษาตอนปลายกับตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ “แพช่วยชีวิต”. วารสารวิชาการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 23(3), 13-21.
บุญเลี้ยง ทุมทอง และเฉลิมชัย โสสุทธิ์. (2555). การศึกษาศักยภาพการเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. บุรีรัมย์: มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
ปัญจนาฏ วรวัฒนชัย. (2565). ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์. วารสารครุศาสตร์สาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, 16(1), 14-31.
พัดชา ดอกไม้, ศศิธร โสภารัตน์ และอภิชาติ พยัคฆิน. (2566). การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการผลิตและใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มของนักศึกษาครูวิทยาศาสตร์. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 25(1), 181-194.
สวนันท์ แดงประเสริฐ และภาวพรรณ ขำทับ. (2562) การพัฒนาโครงสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ. วารสารพัฒนาเทคนิคการศึกษา, 32(112), 27-36.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2563). นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2563. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). มาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
_______. (2563). สรุปผลการประชุมโต๊ะกลมไทย-สหรัฐฯ ด้านการศึกษา ครั้งที่ 7: สะเต็มศึกษา: วัฒนธรรมการเรียนรุ้สำหรับกำลังคนในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
_______. (2566). การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบและกลไกการพัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญาของผู้เรียน. กรุงเทพฯ: สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้.
Joyce, B. & Weil, M. (2000). Model of teaching. (6th ed.). Boston: Alyn and Bacon.
Ladachart, L., et al. (2019). Teachers’ understanding and views about STEM education and engineering design. Silpakorn University Journal, 39(3), 133-149.
Pimthong, P. (2018). STEM education. Bangkok: Vista Interprint.