รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสมรรถนะสูงตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารสถานศึกษาสมรรถนะสูงของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี 2) พัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสมรรถนะสูงตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และ 3) ประเมินรูปแบบ ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสานวิธี มี 3 ขั้นตอน คือขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพการบริหารสถานศึกษาสมรรถนะสูง โดยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักการศึกษา ผู้บริหาร พนักงานครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวน 260 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติคือ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบ โดยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 10 คน ใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 คน ใช้เอกสารการสนทนากลุ่ม คัดเลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญและผู้ทรงคุณวุฒิโดยวิธีเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ขั้นตอนที่ 3 ประเมินรูปแบบ โดยใช้แบบประเมินกับผู้บริหาร พนักงานครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี จำนวน 260 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติคือ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการบริหารสถานศึกษาสมรรถนะสูงของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.26) ได้แก่ ด้านการมีวัฒนธรรมองค์กร (x̄ = 4.29) ด้านการสร้างองค์กรเครือข่าย(x̄ = 4.28) ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ (x̄ = 4.28) ด้านการมีหลักการบริหารที่ดีและถูกต้อง (x̄ = 4.24) และด้านการมีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (x̄ = 4.22) ตามลำดับ
2. การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาสมรรถนะสูงตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการพัฒนา และ 4) เงื่อนไขความสำเร็จ
3. การประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสมรรถนะสูงตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.42) ได้แก่ ความเป็นประโยชน์ (x̄ = 4.47) ความถูกต้อง (x̄ = 4.43) ความเหมาะสม (x̄ = 4.42) และความเป็นไปได้ (x̄ = 4.38) ตามลำดับ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
นันทวรรณ อิสรานุวัฒน์ชัย. (2550). ภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ในยุคโลกาภิวัตน์: ศึกษาจากหลักพุทธธรรม. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป. (2552). สัปปุริสธรรม 7 อย่าง. กรุงเทพฯ: สุภา.
พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต). (2546). สู่การศึกษาแนวพุทธ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
พิเชษฐ์ โพธิ์ภักดี. (2553). การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนนิติบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักการศึกษาเมืองพัทยา. (2563). บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562. (เอกสารประกอบการประชุม). ชลบุรี: เมืองพัทยา.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2562). ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2556). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. 2556-พ.ศ. 2561). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.).
สุธีรัตน์ อริเดช และพูนชัย ยาวิราช. (2557). ยุทธสาสตร์การพัฒนาวัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐ. วารสารราชพฤกษ์, 12(2), 31-37.
Holbeche, L. (2005). The high-performance organization: Creating dynamic stability and sustainable success. Oxford, UK: Elsevier/Butterworth-Heinemann.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610. https://doi.org/10.1177/001316447003000308.
McMillan, J. H., & Schumacher, S. (2001). Research in Education. (5th ed.). New York: Addison Wesley Longman, Inc.
Mille, L. M. (2009). The High-performance Organization an Assessment of Virtues and Values PreparedforEuropean. Retrieved from http//www. opdc.go.th./oldweb/thai/High-performance/HPO
Schemerhorn, J. R., Hunt, J. G., & Osborn, R. N. (2003). Organizational behavior. (8th ed.). USA: John Wiley & Sons, Inc.