การบูรณาการหลักสัมมัปปธานเพื่อพัฒนาการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาหลักสัมมัปปธานเพื่อการพัฒนาการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2) บูรณาการหลักสัมมัปปธานเพื่อการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ 3) เสนอแนวทางการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาข้อมูลจากเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์เจาะลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 30 รูป/คน และการสนทนากลุ่มเฉพาะกับผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจำนวน 12 รูป/คน ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบทและตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลโดยใช้เทคนิคสามเส้า และนำเสนอเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
1. หลักสัมมัปปธานเพื่อการพัฒนาการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พบว่า หลักของสัมมัปปธาน 4 ได้แก่ 1) ความพอใจ สำรวมระวัง เพื่อไม่ให้บาปเกิดขึ้นภายในจิต 2) ปหานปธาน เพียรพยายามที่ละบาป ละอกุศล 3) ภาวนาปธาน เพียรพยายามที่จะกระทำให้กุศลเกิดให้ปลูกฝังความพอใจในการที่จะเสริมสร้างกุศลคุณงานความดีให้บังเกิดขึ้น และ 4) อนุรักขนาปธาน การพยายามรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อมไป
2. การบูรณาการหลักสัมมัปปธานเพื่อการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พบว่า การพัฒนาการป้องกันทุจริตการด้านปหานปธาน จะมีสติควบคุมยับยั้งความประพฤติเกี่ยวกับการประพฤติผิดเห็นโทษ
3. แนวทางการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พบว่า 1) การพัฒนาการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งด้านสังวรปธาน เพียรระวังยับยั้งบาปที่เกิดจากการทุจริตที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น 2) การพัฒนาการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งด้านปหานปธาน จะมีสติควบคุมยับยั้งความประพฤติ 3) การพัฒนาการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งด้านภาวนาปธานนั้น เป็นการพัฒนาสมาธิโดยตรง 4) การพัฒนาการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งด้านอนุรักขนาปธาน เมื่อเข้าใจเรื่องของความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นนั้นด้วยปัญญา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
เกษฎา ผาทอง และธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์. (2561). พระพุทธศาสนากับการเมืองในสังคมไทย. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 8(1), 195-207.
บรรเจิด สิงคะเนติ. (2563). หลักกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมฝ่ายปกครอง. กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
ผาสุก พงษ์ไพจิตร. (2543). ทฤษฎีขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมใช้กับสังคมไทยได้หรือไม่?. ใน ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ (บรรณาธิการ), ลุกขึ้นสู้: เศรษฐศาสตร์การเมือง. กรุงเทพฯ: คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2551). พจนานุกรมศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. (พิมพ์ครั้งที่ 16). กรุงเทพฯ: เอส. อาร์. พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์.
สุรชาติ บำรุงสุข. (2558). ดุลอำนาจในการเมืองการปกครองไทย. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
Ashforth, B. E., & Anand, V. (2003). The normalization of corruption in organizations. Research in Organizational Behavior, 25(-), 1-52.
Kenaphoom, S. (2014B). Establish the Research Conceptual Framework in Public Administration by the Rational Conceptual thinking. Phetchabun Rajabhat Journal, 16(1), 1-19.