การศึกษาและพัฒนารูปแบบการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนบนฐานศาสตร์พระราชาเพื่อความยั่งยืน: กรณีบ้านม่วงคำ จังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาศักยภาพและความพร้อมของชุมชนบ้านม่วงคำทั้งด้านปัจจัยภายใน (จุดแข็ง/จุดอ่อน) และภายนอก (โอกาส/อุปสรรค) ต่อการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน 2) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่มีผลต่อการพัฒนาบ้านม่วงคำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน และ 3) เสนอรูปแบบการพัฒนาและการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนสู่ความยั่งยืนบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา การวิจัยใช้แนวทางชุมชนเป็นฐาน โดยประยุกต์การประเมินชุมชนแบบมีส่วนร่วม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ชุมชนบ้านม่วงคำ 221 หลังคาเรือน เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง การสังเกต และการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้นำชุมชน 10 คน รวมทั้งบุคลากรภาครัฐและเอกชน 16 คน ผ่านการสนทนากลุ่มย่อย ข้อมูลรวบรวมจากเอกสาร การสัมภาษณ์ การสังเกต และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ด้วย SWOT และการวิเคราะห์เนื้อหา รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวถูกตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้โดยผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และชุมชน ได้ค่าเฉลี่ย 4.50, 5.00 และ 4.69
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุมชนบ้านม่วงคำมีศักยภาพด้านทรัพยากรกายภาพ องค์ประกอบการท่องเที่ยว ภาวะผู้นำ และบุคลากร สามารถพัฒนาวิถีเกษตรกรรมสู่เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร และต่อยอดสู่การท่องเที่ยวโดยชุมชนตามศาสตร์พระราชา ส่งผลให้เกิดความเข้มแข็ง การมีส่วนร่วม และได้รับรางวัลระดับประเทศ
2. ปัญหาภายใน ได้แก่ ความหลากหลายของทุนวัฒนธรรมที่จำกัด การมีส่วนร่วมไม่ทั่วถึง ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวไม่ครบถ้วน การประชาสัมพันธ์ออนไลน์ไม่ต่อเนื่อง มาตรฐานบริการยังอยู่ระยะเริ่มต้น และกองทุนท่องเที่ยวไม่เข้มแข็ง ส่วนปัจจัยภายนอก ได้แก่ การแข่งขันจากแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในอำเภอแม่ริมและสะเมิง และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมจากคนนอกพื้นที่ที่นำไปสู่ความไม่เข้าใจ
3. รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของชุมชนบ้านม่วงคำสามารถจำแนกได้ 7 รูปแบบ ได้แก่ 1) การท่องเที่ยวโดยชุมชน 2) โฮมสเตย์ 3) การท่องเที่ยวเชิงการศึกษา 4) การอนุรักษ์ 5) การนันทนาการและประสบการณ์ใหม่ 6) การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และ 7) การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
กรมการพัฒนาชุมชน. (2566). รายงานประจำปี 2566 กรมการพัฒนาชุมชน. กรุงทพฯ: กรมการพัฒนาชุมชน.
คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ. (2559). เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย. กรุงทพฯ: องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน).
ชูสิทธิ์ ชูชาติ. (2562). คู่มือการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). เชียงใหม่: ศูนย์ศึกษาศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
ไทยรัฐออนไลน์. (2563). ท่องเที่ยวแบบ RT สร้างสุขทางเศรษฐกิจ รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ก่อน..บอกให้รู้ว่าสวยแค่ไหน. เข้าถึงได้จาก https://www.thairath.co.th/ news/society/1929608
โปรดปราน เสริญวงศ์สัตย์. (2566). ศาสตร์พระราชากับการพัฒนาท้องถิ่นในศตวรรษที่ 21. วารสารวิชาการรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์, 5(1), 1-12. https://so08.tci-thaijo.org/index.php/AJPP/article/view/766
ผการัตน์ พินิจวัฒน์. (2565). ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน. วารสารศิลปะศาสตร์ราชมงคลสุวรรณภูมิ, 4(1), 202-212. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/art/article/view/258274
พัลลภา ปีติสันต์. (2561). การสร้างคุณค่าให้กับชุมชน (ท้องถิ่น) ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
มนัส สุวรรณ, สมาน ฟูแสง, ณรงพันธ์ ฉุนรัมย์, วรพล วัฒนเหลืองอรุณ และชนม์ธนัช สุวรรณ. (2562). กลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนบนพื้นฐานของศาสตร์พระราชา. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
วรพล วัฒนเหลืองอรุณ, บังอร ฉัตรรุ่งเรือง และกริช สอิ้งทอง. (2566). ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีในยุค New Normal & Next Normal. เชียงใหม่: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.).
วรากรณ์ พูลสวัสดิ์, นงนุช ยังรอด และปิยนาถ อิ่มดี. (2565). การสร้างและพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนของกลุ่มชาติพันธุ์ลาวครั่งในจังหวัดนครปฐม. วารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์, 8(2), 151-168. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/Palisueksabuddhaghosa/article/view/260657
ศิราณี ขำคม, พระครูพิศาลสารบัณฑิต และสมเดช นามเกตุ. (2566). ศาสตร์พระราชากับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย. วารสารมณีเชษฐาราม วัดจอมมณี, 6(4), 265-282. https://so07.tci-thaijo.org/index.php/JMCR/article/view/3387/2257
ศูนย์ประสานงานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน. (2563). การท่องเที่ยวโดยชุมชน. เข้าถึงได้จาก https://thaicommunitybasedtourismnetwork.wordpress.com/cbt/
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ. (2563). หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: ธนอรุณการพิมพ์.
หทัยรัตน์ สวัสดี. (2563). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนชุมชนบ้านท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน, 2(1), 64-73. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSTD/article/view/254914
อุมาพร ห่านรุ่งชโรทร. (2551). การเสริมสร้างพลังอำนาจชุมชน. วารสารพยาบาล มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2(ฉบับพิเศษ), 1-5.
Dickman, C. R. (1996). Overview of the impacts of feral cats on Australian native fauna. Canberra: Australian Nature Conservation Agency.
Erwin, W. (1976). Electoral participation in a low stimulus election. Rural Development, 4(1), 111-124.
Kotler, P., & Armstrong, G. (2018). Principles of marketing. (17th ed.). Harlow: Pearson Education Limited.