การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวมของกลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพศูนย์การศึกษาพิเศษในยุคดิจิทัล
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบ สภาพ ปัญหา และแนวทางการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวม 2) พัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวม 3) ประเมินรูปแบบการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวม รวบรวมข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถาม การประชุมเชิงปฏิบัติการการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ การสัมมนาประชาพิจารณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความเชื่อมั่น ค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าเฉลี่ย () ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (r) ค่าดัชนีไกเซอร์ เมเยอร์ ออลคิน (KMO) การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (CFA) และการวิเคราะห์เนื้อหา โดยมีโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวม จำนวน 126 โรงเรียน เป็นประชากร และกลุ่มตัวอย่าง
ในการศึกษา
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบของการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวมของกลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพศูนย์การศึกษาพิเศษในยุคดิจิทัลประกอบด้วย 6 องค์ประกอบได้แก่ 1) ด้านสภาพแวดล้อม 2) ด้านเครือข่ายความร่วมมือ 3) ด้านงบประมาณ 4) ด้านระบบบบริหารที่มีประสิทธิภาพ 5) ด้านพัฒนาครูและบุคลากร 6) ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้
2. สภาพการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวมของกลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพศูนย์การศึกษาพิเศษในยุคดิจิทัล ด้านที่มีการปฏิบัติมากที่สุด คือฃด้านการปรับอาคารสถานที่ให้มีความเหมาะสม รองลงมาคือ ด้านระบบบริหารที่มีประสิทธิภาพ ส่วนด้านที่มีการปฏิบัติน้อยที่สุด คือ ด้านการจัดสรรงบประมาณ
3. องค์ประกอบรูปแบบการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวมประกอบ ด้วย 1) หลักการและแนวคิด 2) วัตถุประสงค์ 3) ปัจจัยนำเข้า 4) กระบวนการ 5) ผลผลิต 6) ผลลัพธ์ 7) ข้อมูลย้อนกลับ และ 8) เงื่อนไขความสำเร็จ
4. ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่ามีความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ เป็นประโยชน์ในภาพรวมของรูปแบบการบริหารโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรวมของกลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพศูนย์การศึกษาพิเศษในยุคดิจิทัล พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด และผลการประเมินความเป็นประโยชน์ในภาพรวมของรูปแบบ พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
จริยา ตรุษฏี. (2562). แนวทางการจัดการเรียนร่วมสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ณัฐฐา แสงเชย. (2564). รูปแบบการนิเทศภายในตามสถานการณ์ชีวิตวิถีใหม่ (New Nomal) ของผู้บริหารสถานศึกษาในเขตภาคเหนือ. (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
ธัญลักษณ์ จันทร์ศรี. (2562). การพัฒนารูปแบบการบริหารการศึกษาพิเศษของโรงเรียนต้นแบบการเรียนรวม สำนักงานศึกษาธิการภาค 14. สุรินทร์: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
เบญจา ชลธาร์นนท์. (2545). คู่มือการบริหารจัดการเรียนร่วมโดยใช้โครงสร้างชีท. กรุงเทพฯ: เพทายการพิมพ์.
วิชาญ จารุกาจน์. (2564). การบริหารจัดการศึกษาแบบเรียนรวมของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 17(2), 225-241.
แววตา ไชยขันธ์, วิมลมาศ ปฐมวณิชกุล และพงศ์ธร โพธิ์พูลศักดิ์. (2565). การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมของโรงเรียนในสังกัดศึกษาธิการ ภาค 12. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ, 2(6), 645-670.
ศิวสันต์ สิงหะหล้า, ปิยะนุช เงินคล้าย, ปรัชญา ชุ่มนาเสียว และนิพนธ์ โซะเฮง. (2565). การศึกษาการนำนโยบายการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กพิการไปปฏิบัติ. วารสารรัฐศาสตร์รอบรู้และสหวิทยาการ, 5(4), 231-249. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/WPSMS/article/view/260227/172741
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2556). มาตรฐานการเรียนร่วม. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
_______. (2566). แนวทางการจัดการศึกษาให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2556). รายงานการติดตามการศึกษาเพื่อปวงชนระดับโลก. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สุมาลี ศรีผง. (2561). รูปแบบการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 5(2), 198-215. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/download/162870/118416
Comrey, A. L., & Lee, H. B. (1992.) A First Course in Factor Analysis. (2nd ed). Hillsdale, New Jersey: Lawrence Erlbaum Associated.
Cronbach, L. J. (1971). Essential of psychology testing. (3rd ed.). New York: University of Chicago.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30, 607-610. https://doi.org/10.1177/001316447003000308
Likert, R. (1961). New Patterns of Management. New York: McGraw Hill.
Pearson, K. (1920). Notes on the history of correlation. Biometrika, 13(1), 25-45. https://doi.org/10.2307/2331742
Wiersma, W., & Jurs, S. (1990). Educational measurement and testing. Needham Heights, MA: Allyn and Bacon.