การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการนิเทศภายในสถานศึกษา 2) พัฒนารูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา และ 3) ตรวจสอบรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู เป็นการวิจัยและพัฒนาโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ดำเนินการ 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพและความต้องการของครูผู้สอนจำนวน 204 คน ด้วยแบบสอบถามและวิเคราะห์ดัชนีความต้องการจำเป็น (PNI) ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญจำนวน 9 คน และวิเคราะห์เนื้อหา และระยะที่ 3 ตรวจสอบรูปแบบโดยการสนทนากลุ่มกับผู้ปฏิบัติงาน 9 คน
ผลการวิจัยพบว่า ความต้องการจำเป็นด้านการนิเทศภายในเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ การสร้างความชัดเจนในบทเรียน การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน การจัดการเรียนรู้เชิงรุก การแสดงความใส่ใจในงานสอน การส่งเสริมความสำเร็จของผู้เรียน การใช้สื่อการเรียนรู้ และการทำให้กระบวนการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ รูปแบบการนิเทศภายในประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ (1) การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการ (2) การวางแผนการนิเทศ (3) การสร้างสื่อและเครื่องมือ (4) การดำเนินการนิเทศ และ (5) การประเมินผล ผลการพัฒนารูปแบบจากผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีความถูกต้อง เหมาะสม และสามารถนำไปใช้ได้จริง ส่วนผลการตรวจสอบจากการสนทนากลุ่มพบว่ารูปแบบมีความเป็นประโยชน์และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ สรุปได้ว่ารูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร มีองค์ประกอบสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ องค์ประกอบการส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก วิธีดำเนินงานนิเทศ และเงื่อนไขความสำเร็จ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมในบริบทสถานศึกษา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
ทิปพเนตร ศรีนา. (2561). รูปแบบการนิเทศครูเพื่อพัฒนาสู่ครูมืออาชีพ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารเซนต์จอห์น, 22(30), 19-35.
ธนัฏฐา วุฒิวณิชย์. (2563). รูปแบบการนิเทศที่มีประสิทธิผลต่อการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยบูรพา, 15(2), 302-314.
ธนา ธุศรีวรรณ. (2562). การพัฒนารูปแบบการชี้แนะเพื่อส่งเสริมทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับครูระดับมัธยมศึกษา. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
นัยยา ฉายวงค์. (2561). การพัฒนารูปแบบการนิเทศตามแนวคิดการเรียนรู้แบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการวิจัยในชั้นเรียน ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
พวงอ้อย ไชยดี. (2565). การพัฒนาแนวทางการนิเทศแบบสอนแนะ (Coaching) สำหรับสถานศึกษา สังกัดเทศบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง. วารสารวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 11(1), 578-679.
ไพศาล บรรจุสุวรรณ์. (2561). รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก (Active Learning) ในการยกระดับความรู้สู่ความเข้าใจการเมืองและประชาธิปไตยในเชิงเปรียบเทียบ. วารสารอิเล็กทรอนิกส์การเรียนรู้ทางไกลเชิงนวัตกรรม, 8(1), 166-190.
วชิรา เครือคำอ้าย และชวลิต ขอดศิริ. (2562). การพัฒนารูปแบบการนิเทศโดยใช้กระบวนการชี้แนะ และระบบพี่เลี้ยงเพื่อส่งเสริมศักยภาพการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสมาคมนักวิจัย, 24(1), 121-135.
วาสนา บุญมาก. (2562). การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วิชิรตา วรธาดาสวัสดิ์. (2566). รูปแบบการนิเทศการศึกษาแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วิพาพรรณ ดอนจันทร์โคตร. (2560). แนวทางการนิเทศการจัดทักษะการเรียนรู้ในสตวรรษที่ 21 ที่เน้นสรรถนะทางสาขาวิชาชีพด้วยชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโรงเรียนต้นแบบการจัดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. (รายงานการวิจัย). หนองคาย: สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21.
ศิริพงศ์ นาก้อนทอง และสุรเชต น้อยฤทธิ์. (2564). การพัฒนาแนวทางการนิเทศแบบสอนแนะสำหรับโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 10(1), 373-382. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/AJMBU/article/view/241787
ศุภวรรณ สัจจพิบูล. (2560). แนวคิดการนิเทศเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 37(1), 203-222.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2561). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2561. เข้าถึงได้จาก http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/Login.aspx
สถาพร สมอุทัย. (2565). การนิเทศการศึกษาหนึ่งตัวช่วยในการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารวิจัยวิชาการ, 5(3), 275-288.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร. (2564). แผนปฏิบัติการประจำปี 2565. เข้าถึงได้จาก https://www.spmsnicpn.go.th/th/main.php?page=home
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำเร็จ ยุรชัย, ศิริบุญเอื้อ เหล่าชัย และสุนทร ฉมารัตน์. (2560). การพัฒนาแนวทางการนิเทศภายในแบบมีส่วนร่วม สำหรับสถานศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, 17(3), 39-47.
สุภัทรา ภูษิตรัตนาวลี. (2560). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สำหรับคณาจารย์วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้. (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สุรัชดา ภูรับพา. (2564). การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบ้านพุทธรักษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(6), 222-237.
Acheson, K. A., & Gall, M. D. (2011). Clinical supervision and teacher development: Preservice and inservice applications. Hoboken, NJ: John Wiley & Sons, Inc.
Bonwell, C. C., & Eison, J. A. (1991). Active learning: Creating excitement in the classroom. ASHE-ERIC Higher Education Report No. 1. Washington, DC: George Washington University.
Danielson, C. (2007). Enhancing professional practice: A framework for teaching. Alexandria, VA: Association for Supervision and Curriculum Development.
Danielson, C. (2016). The framework for teaching evaluation instrument. New Jersey: The Danielson Group Press.
Fullan, M. (2014). The principal: Three keys to maximizing impact. San Francisco, CA: Jossey-Bass.
Glickman, C. D., Gordon, S. P., & Ross-Gordon, J. M. (2018). Supervision and instructional leadership: A developmental approach. (10th ed.). New York, NY: Pearson.
Hall, G., & Hord, S. (2015). Implementing change patterns, principles, and potholes. (4th ed.). Upper Saddle River, NJ: Person Education.
Hattie, J. (2009). Visible learning: A synthesis of over 800 meta-ana lyses related to achievement. London: Routledge.
Joyce, B. R., & Showers, B. (2002). Student achievement through staff development. (3rd ed.). Alexandria, VA: Association for Supervision and Curriculum Development.
Marzano, R. J. (2003). What Works in Schools: Translating Research into Action. Alexandria: Association for Supervision and Curriculum Development.
Means, B., Toyama, Y., Murphy, R., Bakia, M., & Jones, K. (2010). Evaluation of evidence-based practices in online learning: A meta-analysis and review of online learning studies. Washington DC: US Department of Education.
Prince, M. (2004). Does Active Learning Work? A Review of the Research. Journal of Engineering Education, 93, 223-231. http://dx.doi.org/10.1002/j.2168-9830.2004.tb00809.x