Boundary line and sharing space and time between the ghost and the Tai Dam people in Kalohong

Main Article Content

Thanida Boonwanno

Abstract

The objective of the article is presenting its preliminary field study about sharing space in the same house between the dwellers and the ancestral ghosts haunted in Kalohong (a sacred ancestral ghost space in Tai Dam’s house) during the profane time of everyday life and the sacred time of ghost offering rites. The author conducted a preliminary fieldwork in 10 kalohongs in Khui Yang village of Bang Rakam district in Phitsanulok province for finding out three main questions. Firstly, what is the demarcation line between human space and ghost space through the study of kalohong? Secondly, what are the structures behind the sharing space in the same house between human and ghost? Thirdly, what is the social and symbolic relationship of sharing space in the same house between human and ghost? This study was designed


under reviewing and constructing a conceptual framework through the works of Eliade (1961), Smith (1987) and Segaud (2012). The primary findings will explain why some ordinary or profane space became sacred space like kalohong. Besides, it will propose some preliminary findings about socio-temporal structure and relations behind kalohong.

Article Details

How to Cite
Boonwanno, T. (2022). Boundary line and sharing space and time between the ghost and the Tai Dam people in Kalohong. Journal of Anthropology, Sirindhorn Anthropology Centre (JASAC), 5(2), 131–160. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jasac/article/view/261180
Section
Research Article

References

กานต์ทิตา สีหมากสุก. (2558). วิเคราะห์ปัจจัยการดํารงอยู่และการเปลี่ยนแปลงความเชื่อในพิธีกรรมของไทยทรงดํา: กรณีศึกษาเขตตําบลหนองปรง อําเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาไทยศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา.

กาญจนา สุวรรณศิลป์ และคณะ. (2546). ความดํารงอยู่ของอัตลักษณ์ชาวไทยทรงดํา (ลาวโซ่ง): กรณีศึกษาบ้านสระพัฒนา อําเภอกําแพงแสนจังหวัดเชียงใหม่. การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร.

เชาวน์มนัส ประภักดี. (2558). ผีในโลกทัศน์ของคนไทดําและมอญในชุมชนท้องถิ่นภาคกลาง: บทสังเคราะห์โครงการยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่นพื้นที่ภาคกลาง. ใน รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการระดับชาติสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร ครั้งที่ 2 (หน้า 144-164). กําแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกําแพงเพชร.

ฐาปนีย์ เครือระยา. (2560). การสร้างถิ่นฐาน บ้าน และเรือนคนไทดําไทขาวในเวียดนาม. วารสารข่วงผญา, 12: 122-156.

ติ๊ก แสนบุญ. เอกลักษณ์ในที่พักของชาวไทดํา “เฮือนไทดํา” เมืองแถง (เดียนเบียนฟู) เวียดนาม. เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2565. สืบค้นจาก https://www.silpa-mag. com/culture/article_600#https://www.silpa-mag.com/ culture/article_6000#:~:text.

ธัญณ์ณภัทร์ เจริญพานิช. (2559). ผีและอํานาจ ผ่านความเชื่อเรื่องผีของชาวไทยทรงดําตําบลพันเสา อําเภอบางระกํา จังหวัดพิษณุโลก. วารสารราชพฤกษ์, 14(2): 67-74.

พิเชฐ สายพันธ์. (2562). พลวัตจักรวาลทัศน์และโลกทัศน์สํานึกประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์กับถิ่นฐานต้นกําเนิดของลาวโซ่ง/ ไทดําจากพิธีกรรมความตาย. วารสารมานุษยวิทยา, 2(2): 49-80.

พระมหาอานนท์ เหลือบแล. (2552). กว๊านขับ: การวิเคราะห์วิถีชีวิตไทยทรงดํา ในเขตอําเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก. การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ภูมิชาย พันธุ์ไพโรจน์. (2554). ไทดํารําพันถึงเรือนกระดองเต่า: จากขุนเขาเมืองแถงสู่ลุ่มน้ำภาคกลางของไทย. วารสารวิจัยและสาระสถาปัตยกรรม/การผังเมือง, 8(1): 21-34.

ยุกติ มุกดาวิจิตร. (2557). ประวัติศาสตร์ไทดํา: รากเหง้าวัฒนธรรม-สังคมไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. กรุงเทพ: สํานักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม.

เรณู เหมือนจันทร์เชย. (2558). หน้าที่ทางสังคมของความเชื่อผีบรรพบุรุษไทยโซ่ง บ้านเกาะแรต จังหวัดนครปฐม. วารสารภาษาและวัฒนธรรม, 34(1): 85-103.

เรณู เหมือนจันทร์เชย. (2561). การจัดการความรู้ในพิธีเสนเรือนของไทยทรงดํา. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 38(1): 1-24.

สมคิด ศรีสิงห์. (2521). รายงานการวิจัยเรื่อง วัฒนธรรมไทยโซ่งดํา (ลาวโซ่ง) ในจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

อภิญวัฒน์ โพธิ์สาน. (2553). สารัตถะ คติความเชื่อ และพิธีกรรมลาวโซ่ง. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 29(2): 136-154.

อัญชลี สิงห์น้อย วงศ์วัฒนา. (2559). อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา และการสืบสาน ภาษาชาติพันธุ์ไทดําภาคเหนือตอนล่าง. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

Chaturawong, C. (2017). Ancestral Beliefs and Spatial Organization of Tai Dam Houses. Proceedingin 13th International Conference on Thai Studies “Globalized Thailand? Connectivity, Conflict and Conundrums of Thai Studies”, 15-18 July 2017, Chiang Mai, Thailand.

Chiranthanut, C. & Funo, S. (2008). Considerations on Spatial Formation and Transformation of Kaloeng House in Mukdahan province, Thailand. Journal of Architecture Planning, 73(633): 2285-2292.

Eliade, M. (1961). The Sacred and the Profane: The Nature of Religion. New York: Harper & Brothers.

Hauser-Schäublin, B. (2004). The Politics of Sacred Space: Using Conceptual Models of Space for Socio-Political Transformation in Bali. Bijdragen tot de Taal-, Land-en Volkenkunde, 160(2/3): 283-314.

Rao, U. (2018). Sacred Space. In H. Callan (Ed.). The International Encyclopedia of Anthropology (pp. 1-7). New Jersey: John Wiley & Sons.

Smith, J. Z. (1987). To take place: Toward Theory in Ritual. Chicago: University of Chicago Press.

Segaud, M. (2012). Anthropologie de l’espace: Habiter, Fonder, Distribuer, Transformer. Paris: Armand Colin.

Turton, A. (1978). Architectural and Political Space in Thailand. In G.B. Milner (Ed.). Natural Symbols in South East Asia. (pp.111-128). London: School of Oriental and African Studies.

Weinberg, J. (2013). Surfing the Shifting Boundary between Sacred and Profane: Confluence, Dwelling, and Crossing. Journal for the Study of Religion, 26(1): 45-60.