ผลกระทบของการนำสายลับมาใช้ในการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดในประเทศไทย
คำสำคัญ:
สายลับ; การสืบสวน; การปราบปราม; อาชญากรรมยาเสพติดบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาบทบาทความสำคัญของสายลับในการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดในประเทศไทย 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่สืบสวนกับบุคคลที่เป็นสายลับ 3. เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการนำสายลับมาใช้ในการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดในประเทศไทย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งสิ้น 27 ท่าน
จากการศึกษาพบว่า ประการแรกสายลับมีบทบาทความสำคัญในการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติด โดยทำหน้าที่รายงานข่าวสาร การแทรกซึม และการล่อซื้อยาเสพติดให้แก่เจ้าหน้าที่สืบสวน เนื่องจากสายลับเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการยาเสพติดอยู่แล้วจึงสามารถรับรู้ข้อมูลทุกอย่างของผู้กระทำความผิดได้โดยไม่ต้องใช้เวลามากนักในการสร้างความไว้วางใจกับผู้กระทำความผิดด้วยกัน แต่ทั้งนี้บทบาทความสำคัญของสายลับส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของเจ้าหน้าที่แต่ละบุคคลซึ่งมีลักษณะเป็นอัตวิสัย มีทั้งมุมมองเชิงบวก มุมมองเชิงลบ และมุมมองที่เป็นกลาง ประการที่สองรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่สืบสวนกับสายลับซึ่งเป็นบุคคลขั้วตรงข้ามกัน จากการศึกษาพบว่ารูปแบบความสัมพันธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละคู่สัมพันธ์ทั้งในรูปแบบนายกับบ่าว รูปแบบเพื่อนร่วมงาน และรูปแบบพี่กับน้อง ประการสุดท้ายผลกระทบจากการนำสายลับมาใช้ในการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติด ซึ่งผู้วิจัยสามารถจำแนกผลกระทบออกได้เป็น 6 ด้าน 1. ผลกระทบด้านตัวสายลับ 2. ผลกระทบด้านเจ้าหน้าที่ 3. ผลกระทบด้านสังคม 4. ผลกระทบด้านกฎหมาย 5.ผลกระทบด้านจริยธรรม และ 6. ผลกระทบด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
เนื่องจากสายลับอยู่ในวงจรการกระทำความผิดและมีโอกาสกลับไปกระทำความผิดซ้ำ และจากลักษณะงานที่เป็นความลับ การตรวจสอบความโปร่งใสกระทำได้ยาก จึงส่งผลกระทบต่อสังคมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหลายประการ ควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 หมวด 1 ว่าด้วยการสืบสวน โดยให้ระบุถึงการสืบสวนโดยวิธีใช้สายลับ โดยศึกษาเปรียบเทียบเช่น กฎหมายของราเชล (Rachel's Law) และนโยบายต้นแบบในการใช้สายลับ (The Model Policy on Confidential Informants) ของ International Association of Chief of Police (IACP) พัฒนาระบบงานยุติธรรมทางอาญาให้ทุกฝ่ายยึดหลักการค้นหาความจริงในเนื้อหาและสร้างมาตรการกำกับดูแลให้ดียิ่งขึ้น
คำสำคัญ: สายลับ; การสืบสวน; การปราบปราม; อาชญากรรมยาเสพติด
เอกสารอ้างอิง
บรรณานุกรม
ภาษาอังกฤษ
Atkinson, C. (2 0 2 1 ). Fully informed? A methodology for assessing covert informant coverage in policing and law enforcement. The Police Journal, 9 4 (1 ), 3–1 9 . https://doi.org/10.1177/0032258X19871325.
Dabney, D. A., & Tewksbury, R. (2016). Speaking truth to power: Confidentia1111l informants and police investigations. University of California Press. https://dorg/10.1525/california/9780520290464.001.0001
Hess, A., & Amir, M. (2002). The program of criminal undercover agents sources in the drug trade. Substance Use & Misuse, 3 7 (8 –10) , 997 –1 0 3 4 . https://doi org.chula.idm.oclc.org/10.1081/JA-120004163.
Katz, H. A. (1978). Narcotics investigations: Developing and using informants. Police Law Quarterly, 7 ( 3 ) , 5 -1 2 . https://heinonline.org/HOL/P?h=hein.journals/ polqua7&i=79.
Madinger, John. (1999). Confidential informant: Law enforcement’s most valuable tool. https://doi.org/10.4324/9780367801984.
Michael J. Sulick. (2014). 3. The Undetected Spy: Edward Bancroft. In Spying in America : Espionage from the Revolutionary War to the Dawn of the Cold War. Georgetown University Press.
Shane, J. (2016). Confidential Informants : A Closer Look at Police Policy (1st ed. 2016.). Springer International Publishing
Trostle, L. C. (2 0 2 2 ) . International Association of Chiefs of Police. Salem Press Encyclopedia. https://search-ebscohost-com.chula.idm.oclc.org/login.aspx?dire ct=true&db=ers&AN=95342914&site=eds-live.
ภาษาไทย
ปัทมา วะรินทร์. (2554). การค้นหาความจริงในคดียาเสพติด : ศึกษากรณีการรับฟังพยานบุคคล ที่เป็นสายลับ . [วิทยานิพนธ์นิติศาสตร์มหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]. TU Digital Collections. http://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc :120741.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ประกาศเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
- เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่นถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
- บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่นถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวารสารวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่น หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวิทยาลัยการจัดการและพัฒนาท้องถิ่นก่อนเท่านั้น