แนวทางการบริการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับที่พักอาศัยแนวดิ่ง ในพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของการบริการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับที่พักอาศัยแนวดิ่ง และ 2) เพื่อกำหนดแนวทางการบริการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับที่พักอาศัยแนวดิ่ง ในพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยผสมผสาน ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพ และการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างการวิจัยจำนวน 515 คน ได้แก่ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบตกแต่งภายใน จำนวน 15 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และลูกค้าที่มีประสบการณ์เป็นเจ้าของที่พักอาศัยแนวดิ่งในเขตพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จำนวน 500 คน โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบสะดวก เครื่องมือการวิจัยครั้งนี้คือ แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม และสถิติที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ
ผลการวิจัยพบว่า
- องค์ประกอบของการบริการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับที่พักอาศัยแนวดิ่ง พบว่า มีทั้งหมด 8 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) ด้านหนทางหลักเพื่อการเป็นนักออกแบบที่ดีที่สุด (2) ด้านจุดกำเนิดของโอกาสที่เพิ่มขึ้น (3) ด้านการบริหารจัดการเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า (4) ด้านนักออกแบบที่มีประสบการณ์ (5) ด้านการเรียนรู้งานออกแบบเชิงลึก (6) ด้านการทำการตลาดแบบเชิงรุก (7) ด้านการบริการที่มีคุณภาพอย่างไม่หยุดนิ่ง (8) ด้านการออกแบบให้โลกมีสีเขียว โดยให้นิยามองค์ประกอบของการบริการออกแบบตกแต่งภายในว่า “การออกแบบให้ลูกค้าเหมือนพักอาศัยอยู่ที่บ้าน”
- แนวทางการบริการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับที่พักอาศัยแนวดิ่ง ในพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พบว่า มีแนวทางการบริการ 8 แนวทาง ตามองค์ประกอบของการบริการออกแบบตกแต่งภายใน เพื่อใช้ในการดำเนินการแนวทางทางการบริการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับที่พักอาศัยแนวดิ่ง ในพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2552). สถิติสำหรับงานวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ภาควิชาสถิติ คณะ
พาณิชยศาสตร์.
เกชา ธีระโกเมน. (2547). การประเมินระดับมาตรฐานอาคารยั่งยืน. รายงานวิจัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์,
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
จง บุญประชา.(2557). การออกแบบตกแต่งภายใน. กรุงเทพฯ: คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสถาบันราชภัฎ.
สวนสุนันทา.
ทิพย์สุคนธ์ อินธิประทีป. (2556). การใช้สีในการตกแต่งภายในโรงแรมบูติกในกรุงเทพมหานคร กรณีโรงแรม
รีเฟลคชั่น. รายงานวิจัย สาขาวิชาศิลปะประยุกต์และการออกแบบผลิตภัณฑ์, คณะสถาปัตยกรรมและ.
การออกแบบ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
ประชา พิจักขณา และคณะ. (2552). การศึกษาจิตวิทยาสีที่มีผลต่อความบกพร่องทางการมองเห็นเลือนรางเพื่อ
นำมาใช้ในการออกแบบ. วารสารวิชาการ มทร.พระนคร, 3(2), 14-23.
พัชรี หล้าแหล่ง. (2556). เส้นทางสู่ความสำเร็จ“อายุน้อย..ร้อยล้าน”. รายงานวิจัย สาขาการจัดการ,
คณะวิทยาการจัดการ, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พิชญ์สินี มะโน. (2562). คู่มือออกแบบชีวิตด้วย : Design Thinking. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 18(3),
-12.
รพีพร โรจรน์แสงเรือง และ พบ. (2553). การพัฒนางานคุณภาพ. รายงานวิจัย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล
รามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล.
วชิระ แสงรัศมี. (2559). การศึกษาความต้องการและความพึงใจบ้านสำเร็จรูปขนาดเล็ก. วารสารวิชาการ
ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, (30), 15-31.
ศิริชัย กาญจนวาสี. ทฤษฎีการทดสอบแนวใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย, 2550.
สิริพร กอบนิธิกุลวงศ์. (2560). มุมมองของนักวิชาชีพต่อคุณสมบัติของนักออกแบบภายในรุ่นใหม่. วารสาร
วิจัยและสาระสถาปัตยกรรม/ผังเมือง, 14(2), 15-30.
Comrey, A. L., & Lee, H. B. (1992). A First Course in Factor Analysis (2nd ed.). Hillsdale, NJ
:Lawrence Erlbaum.
Home Buyers Team. (2020). ขอนแก่น อนาคตเมืองอัจฉริยะน่าอยู่. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565,
จาก https://www.home.co.th/hometips/topic-52312.
Sekaran, U. & Bougie, R. (2013). Research Methods for Business. (6th ed). Hoboken, NJ: John
Wiley & Sons.
The Urbanis. (2020). เมือง 4.0 : จะอยู่อย่างไรในแนวตั้ง. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565,