The Implementation of Student Care and Support System of Schools Under the Office of Nakhon Si Thammarat Primary Educational Service Area 2
Main Article Content
Abstract
This research aims to investigate schools’ implementation of student care and support system as perceived by teachers, to make comparisons of the implementation as perceived by teachers in relevance to their gender, age, educational level, academic standing work experience, and school size, and to examine problems with suggestions regarding schools’ implementation of student care and support system. The sample consisted of 335 teachers under Nakhon Si Thammarat Primary Educational Service Area Office 2 obtained by using proportional stratified and simple random sampling. The instrument was a five-point Likert scale questionnaire with the IOC ranged between .80 – 1.00 and the coefficient alpha of .916. The data analysis was performed using mean, standard deviation, One-way ANOVA, and Least Significant Difference (LSD) test.
The results revealed that 1) the schools’ overall and every aspect of student care and support system implementation was found at a high level. 2) According to the comparison results, there were no differences in the perceptions of teachers in relevance to their gender, age, educational level, and work experience, but there was a significant difference when compared with their school size at level of .05. 3) Problems and suggestions indicated that due to incomplete data gathering, screening remained incomprehensive and resulted in unsystematic problem-solving. Thus, schools should provide comprehensive individual students’ data and keep them up to date.
Article Details
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2547). แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์. กรุงเทพมหานคร: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). คู่มือการคัดเลือกสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรับรางวัลระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนประจำปี 2562. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กรดา มลิลา. (2564). การบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ.
จันจิรา ไชยรัตน์และ รุ่งชัชดาพร เวหะชาต.(2561). การดําเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของผู้ บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครู สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยทักษิณ.
จันทัปปภา บุตรดี. (2562). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาในอำเภอหนองสองห้องสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
จิดาภา มาประดิษฐ์. (2560). การบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.
ธานี สุขโชโตและวรกฤต เถื่อนช้าง. (2563). การดูแลช่วยเหลือนักเรียนและการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์โควิด-19. บัณฑิตศึกษาปริทรรศน์.วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์.
นัฎจรี เจริญสุข (2562). ศึกษาการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11. วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.
ปรมาภรณ์ สนธิ. (2560). แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับประถมศึกษาของ โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี.
ปุญชรัศมิ์ พันธุวัฒน์. (2560). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้านการคัดกรองนักเรียนของโรงเรียนพร้าววิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
ยุวดี โกสุมาลย์. (2560). สภาพการดำเนินงานระบบดแลชวยเหลือนักเรียนโรงเรียนสุวรรณภูมิ พิทย ไพศาล สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยรามคําแหง วิทยาเขตร้อยเอ็ด.
รัชพล เที่ยงดี. (2563). การบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
วรรธนา หอมทิพย์. (2560). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนทุ่งขนานวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17 จังหวัดจันทบุรี. งานนิพนธ์ หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพ.
ศตพร เลิศล้ำไตรภพ (2565). ศึกษาการการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามทัศนะของครูโรงเรียนในกลุ่ม เครือข่ายสินปุนโคกหารพรุเตียว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษากระบี. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้.
ศิวา ขุนชำนาญ. (2564). การบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน สังกัดสำนักงาน. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 1.สาขาการบริหารการศึกษา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
สุนิสา มาสุข. (2560). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของครู โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบรูพา.
สุภัสสร สุริยะ. (2562). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนขยายโอกาส สังกัด กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษาและผู้นำทางการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยสยาม.
สุภาวดี ลาภเจริญ. (2562). รูปแบบการบริหารงานด้านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐ โรงเรียนพนัสพิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2. (2565). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565. Rayong2. http://www.nst2.go.th/?p=9898/.2565.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2559). ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน. กรุงเทพมหานคร:สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
Krejcie.R.V. and Morgan, D.W. (1970). Determining sampling size for research activities. Education Psychological Measurement. 30 (3), 608.