วัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม
คำสำคัญ:
วัฒนธรรมคุณภาพบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง วัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดนครปฐม มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม 2) เปรียบเทียบวัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม โดยจำแนกตามเขตพื้นที่การศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม จำนวน 152 โรงเรียน ซึ่งได้มาวิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น โดยผู้ให้ข้อมูลโรงเรียนละ 5 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาหรือรักษาการแทน 1 คน หัวหน้ากลุ่มสาระ 2 คน และครูผู้สอน 2 คน ผู้บริหารได้มาโดยเลือกแบบเจาะจง ส่วนหัวหน้ากลุ่มสาระได้มา โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย และครูผู้สอนได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบ ถามแบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.948 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เปรียบเทียบแบบรวมกลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า
1. วัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับ ค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านการทำงานเป็นทีม ด้านการมอบอำนาจ ด้านการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ด้านภาวะผู้นำด้านคุณภาพ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และด้านการยกย่องและการให้รางวัล
2. วัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม ในภาพรวมมีความแตกต่างกัน เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า การทำงานเป็นทีม การมอบอำนาจ และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนภาวะผู้นำด้านคุณภาพ และการยกย่องและการให้รางวัล มีแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ไม่แตกต่างกัน
เอกสารอ้างอิง
กชกร สร้อยโพธิ์พันธุ์. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อำนาจของผู้บริหารสตรีกับประสิทธิผล ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึง.
ณัฐณิชา ส่องแสง. (2552). การมอบอำนาจในงานเชิงจิตวิทยา ความสามารถในการเผชิญและฟันฝ่าอุปสรรค และความสามารถในการตัดสินใจที่มีผลต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานในโรงงานผลิตเหล็กแห่งหนึ่ง. งานนิพนธ์บัณฑิตวิทยาลัย สาขาจิตวิทยาอุตสาหกรรม คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทรงวุฒิ ทาระสา. (2549). การทำงานเป็นทีมของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 5. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราขภัฎเลย.
ธนัช กนกเทศ. (2549). การพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดทางสังคมด้านความมั่นคงทางสุขภาพของผู้สูงอายุในเขตชุมชนเมือง. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยนเรศวร.
นิตย์ สัมมาพันธ์. (2546). ภาวะผู้นำ: พลังขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศ. TQA Sesies “รางวัลคุณภาพแห่งชาติ” (Thailand Quality Award) เล่ม 1 กรุงเทพฯ : อินโนกราฟฟิกส์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องตน (พิมพครั้งที่ 7). กรงเทพฯ : สุวีริยาสาสน.
พรชณิตว์ แก้วเนตร. (2557). วัฒนธรรมคุณภาพ : วิถีแห่งการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏ. รายงานการวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.
มารยาท แซ่อึ้ง. (2552). การศึกษาการบริหารงานวัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษาระดับมัธยม ศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา ภาควิชานโยบาย การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มีศักดิ์ อะโน. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานเป็นทีมของครูกับประสิทธิผลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ.
ศุภพงษ์ ปิ่นเวลา. (2550). ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมคุณภาพกับการเพิ่มผลผลิต ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 / สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ. (2561). แผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาบุคลากรของกระทรวงแรงงาน ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2561 – 2564). กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สมพัตร์ เบ็ญจชัยพร. (2549). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบวัฒนธรรมคุณภาพกับคุณภาพการศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สมศ. (2558). วัฒนธรรมคุณภาพ : สร้างคน สร้างชาติ. กรุงเทพฯ : สำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน).
สมหญิง ลมูลพักตร์. (2545). ตัวชี้วัดวัฒนธรรมคุณภาพกลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลศูนย์. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1. กลุ่มนโยบายและแผน. (2561). ข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษา ปีการศึกษา 2561. นครปฐม : (ม.ป.พ.).
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 2. กลุ่มนโยบายและแผน. (2561). ข้อมูลพื้นฐานทางการศึกษา ปีการศึกษา 2561. นครปฐม : (ม.ป.พ.).
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2552). คู่มือการจัดระดับการกำกับดูแลองค์การภาครัฐตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี. กรุงเทพฯ พรีเมียร์โปร.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560) มาตรฐานการศึกษาของชาติ. กรุงเทพฯ : สหายบล็อกและการพิมพ์.
สุธารัตน์ ทองเหลือ. (2559). คุณลักษณะและพฤติกรรมการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อวัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาเพชรบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
สุพล จันต๊ะคาด. (2558). รูปแบบการส่งเสริมวัฒนธรรมคุณภาพของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สุรวี ศุนาลัย. (2555). ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการประกันคุรภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. รายงานผลการวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
Batten, J.D. (1992). Building a Total Quality Culture. Menlo Park, CA : Crisp Publications.
Cronbach, L. J. (1978). Essentials of psychological testing (3rd ed.). New York: Harper & Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว