บทบาทของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร

บทคัดย่อ

           การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาบทบาทของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร 2) เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีอายุ พรรษา และการศึกษาทางโลกต่างกัน และ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาบทบาทของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ได้แก่ พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 96 รูป กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการเปิดตารางสำเร็จของเกรจซี่ (Krejcie) และ มอร์แกน (Morgan) และจึงใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One - Way ANOVA)   

        ผลการวิจัยพบว่า
        1. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร มีบทบาท โดยรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.08 และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดไปหาต่ำสุด พบว่า ด้านบุคลิกภาพ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย 4.22 รองลงมาคือด้านวิธีการสอน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.07 และน้อยที่สุดคือด้านการใช้สื่อประกอบการสอน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 3.97
        2. ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร ที่มี อายุ พรรษา และการศึกษาทางโลกต่างกัน มีบทบาทโดยรวมทั้ง 3 ด้าน ไม่แตกต่างกัน
        3. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร ได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวปัญหาและแนวทางแก้ไข คือ 1) ด้านบุคลิกภาพ คือพระสอนศีลธรรมบางรูปตื่นเต้น และยังปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในโรงเรียนไม่ได้ ดังนั้น พระสอนศีลธรรมควรหาวิธีฝึกตนเองให้เกิดความเชื่อมั่น และมั่นใจว่าเราต้องทำได้และปรับตัวได้ พระสอนศีลธรรมบางรูปให้ความสนิทสนมกับนักเรียนมากเกินไป ทำให้นักเรียนไม่เกรงใจ ดังนั้น พระสอนศีลธรรมควรวางตัวเป็นกลาง โดยไม่เลือกปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนเกิดความเกรงใจและเป็นที่เคารพของทุกคน 2) ด้านวิธีการสอน คือพระสอนศีลธรรมบางรูปสอนแบบอ่านหนังสือให้นักเรียนฟัง ดังนั้น พระสอนศีลธรรมควรหาวิธีการสอนที่หลากหลาย เช่น เล่านิทานประกอบ เป็นต้น ทำให้นักเรียนไม่เกิดความเบื่อหน่ายในการเรียน พระสอนศีลธรรม บางรูปยังสอบแบบวิธีเดิม ๆ ตลอดทั้งปีการศึกษา ดังนั้น พระสอนศีลธรรมควรเปลี่ยนวิธีการสอน เช่น สอนแบบสาธิตหรือสอนแบบแสดงบทบาทสมมุติก็ได้ และ 3) การใช้สื่อประกอบการสอนคือ บางวันจะใช้ห้องที่มีเครื่องฉาย หรือห้องคอมพิวเตอร์ในชั่วโมงเดียวกัน ทำให้ไม่ได้เรียนตามแผนการสอนที่เขียนไว้ ดังนั้น พระสอนศีลธรรมฯ ควรแจ้งกับเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในด้านนี้ให้ชัดเจน ว่ามีความต้องการจะใช้ห้องนี้ในวันเวลาดังกล่าว หรือจัดตารางเวลาในการใช้ห้องให้ชัดเจน และน้อยที่สุดคือ บางโรงเรียนไม่มีอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้พระสอนศีลธรรมฯ ไม่สามารถฉายสื่อการสอนได้ ดังนั้น พระสอนศีลธรรมฯ ควรมีวิธีการสอนที่หลากหลายขึ้นหรือผลิตสื่อการสอนด้วยภาพวาด