การบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอย่างยั่งยืน

บทคัดย่อ

        การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอย่างยั่งยืน เป็นการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) และใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบผสานวิธี (Mixed Methodology)   โดยศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาของการบริหารงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนของโรงเรียนที่เป็นสมาชิกงานสวนพฤกษศาสตร์และผ่านการประเมินเกณฑ์การประเมินป้ายสนองพระราชดำริ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540-2562 จำนวน 584 แห่งและศึกษากรณีตัวอย่าง จำนวน 3 โรงเรียน เลือกจากโรงเรียนที่เข้าร่วมงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนและได้รับเกียรติบัตรในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ขั้นที่ 2 (best practice) สังเคราะห์เนื้อหา โดยสรุปเนื้อหาประเด็นต่างๆและสาระสำคัญของการบริหารงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  

            ปัญหาอุปสรรคของการบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอย่างยั่งยืนด้านผู้บริหารโรงเรียนในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 3.71,  S.D. = 0.57)  เมื่อพิจารณาแต่ละรายการพบว่า อยู่ในระดับมากทุกรายการ โดยรายการความไม่ชัดเจน ไม่เข้าใจ ในการบริหารงานงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x̄ = 3.95,  S.D. = 0.78)  รองลงมาคือ การขาดจรรยาบรรณของการเป็นผู้บริหาร ( x̄  = 3.65,  S.D. = 0.72)  และการติดยึดพฤติกรรมการบริหารที่ตนถนัดและไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด (  x̄ = 3.54,  S.D. = 0.74)  การบริหารโรงเรียนเพื่อส่งเสริมงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนอย่างยั่งยืนนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องมีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการนำงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนมาพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้นักเรียน  โรงเรียนต้องให้ทุกภาคส่วนที่มีส่วนสนับสนุนงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนได้มีบทบาทมีส่วนร่วมในการวางแผน ปฏิบัติและตัดสินใจอย่างแท้จริง  โรงเรียนต้องมีการบริหารจัดการที่ดี บริหารจัดการศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย   ครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนจะต้องได้รับการพัฒนาหรือให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน