การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการรู้สารสนเทศสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์การส่งเสริมการรู้สารสนเทศสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พัฒนารูปแบบการส่งเสริมการรู้สารสนเทศ และศึกษาผลของการนำรูปแบบไปใช้ การวิจัยนี้ใช้การวิจัยแบบผสานวิธี แบ่งการวิจัยเป็น 3 ระยะ แหล่งข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหาร ครูบรรณารักษ์ และครูผู้สอน จำนวน 132 คน และนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 24 คน สุ่มแบบเจาะจงตามเกณฑ์ที่กำหนด เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบบันทึก แบบสัมภาษณ์ แบบสนทนากลุ่ม แบบสอบถาม และแบบสังเกต การวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา นำเสนอโดยการสรุปความ ข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า 1) การส่งเสริมการรู้สารสนเทศสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของสถานศึกษา ดำเนินการแบบแยกส่วน ไม่เป็นองค์รวมตามกระบวนการของทักษะการรู้สารสนเทศ และมีรูปแบบหลากหลาย โดยการสอนในรายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีสาระเกี่ยวข้องกับทักษะการรู้สารสนเทศ สื่อ และดิจิทัล การสอนเป็นรายวิชาซึ่งเป็นหลักสูตรสถานศึกษา มีชื่อรายวิชาหลากหลาย เน้นการใช้ห้องสมุด การค้นคว้าเขียนรายงาน การบูรณาการในมาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ และการจัดการเรียนรู้ และการจัดเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่วนโรงเรียนมาตรฐานสากลมีการจัดการเรียนรู้กระบวนการรู้สารสนเทศภายใต้สาระการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง การส่งเสริมการรู้สารสนเทศมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายด้าน โดยเฉพาะด้านนโยบาย ด้านการบริหารจัดการ ด้านผู้บริหาร ครูผู้สอน และครูบรรณารักษ์ 2) รูปแบบการส่งเสริมการรู้สารสนเทศสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเน้นแนวคิดผู้เรียนเป็นสำคัญและเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ผู้บริหาร ครูผู้สอน และครูบรรณารักษ์ โดยมีครอบครัวและชุมชนเป็นฐาน แต่ละองค์ประกอบมีบทบาทหน้าที่หลักเกี่ยวข้องเกื้อกูลกัน และ 3) ผลการนำรูปแบบการส่งเสริมการรู้สารสนเทศไปทดลองใช้โดยการจัดกิจกรรมที่แตกต่างกันในโรงเรียน 3 แห่งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด พบว่านักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการส่งเสริมการรู้สารสนเทศในระดับมาก และผู้บริหาร ครูผู้สอน และครูบรรณารักษ์มีความคิดเห็นว่า รูปแบบการส่งเสริมการรู้สารสนเทศที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมโดยรวมในระดับมาก เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้
Article Details
บทความทุกเรื่องที่ลงตีพิมพ์จะได้รับการตรวจอ่านโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ความคิดเห็นและบทความที่ปรากฏในวารสารนี้ เป็นของผู้เขียนซึ่งมิใช่เป็นความคิดเห็นของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ การนำบทความในวารสารนี้ไปตีพิมพ์ซ้ำต้องได้รับอนุญาตจากคณะผู้จัดทำ
All articles submitted for publication will be reviewed by the academic reviewers. The editorial board and TLA claim no responsibility for the content or opinions expressed by the authors of individual articles or columns in this journal. Reprinting of any articles in this journal must be permitted by the editorial board.