การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ โจทย์ปัญหา โดยการจัดการเรียนรู้การแก้ปัญหาของโพลยาร่วมกับแบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

The Developing Problem-Solving Skills and Academic Performance through Learning Management of Polya's Problem-Solving Techniques and Skills Training Module for Grade 3 Elementary Students.

Authors

  • Matsee Narakul -
  • สุนันท์ สีพาย

Keywords:

กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา, แบบฝึกทักษะ

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ โจทย์ปัญหา โดยการจัดการเรียนรู้การแก้ปัญหาของโพลยาร่วมกับแบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3  ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียน  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหน่วยการเรียนรู้ โจทย์ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านหนองบัวใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ โจทย์ปัญหา โดยการจัดการเรียนรู้การแก้ปัญหาของโพลยาร่วมกับแบบฝึกทักษะ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบวัดทักษะการแก้โจทย์ปัญหาสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที ผลการวิจัย พบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้  โจทย์ปัญหา มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.68/75.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75 2) ทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ โจทย์ปัญหา ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้การแก้ปัญหาของโพลยาร่วมกับแบบฝึกทักษะหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย.

___________. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช2551(ฉบับปรับปรุง 2560). กรุงเทพฯ : ผู้แต่ง.

กาลทิวา สูญราช และวรรณพล พิมพะสาลี.(2561). การจัดการเรียน การสอนโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิดของโพลยา เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนาม ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ศึกษา. 1(2) : 206-215.

เกรียงศักดิ์ พลอยแสง. (2561). การเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 5 (ฉบับพิเศษ), 131- 141.

คณิศร พานิช (2563) การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาของโพลยา เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 .ประจวบคีรีขันธ์ : โรงเรียนบางสะพาน.

ชวลิต ด้วงเหมือน. (2561). ผลการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณหารระคนด้วยเทคนิค KWDL ร่วมกับการใช้แผนภาพ ที่มี ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย บูรพา.

ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2557). เทคนิคการใช้คำถามพัฒนาการคิด (พิมพ์ครั้งที่ 4). นนทบุรี:สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสซิ่ง.

ชานนท์ ปิติสวโรจน์. (2560) การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและ การลบโดยใช้กระบวนการแก้ โจทย์ปัญหาของโพลยาสำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารบัณฑิตวิจัย. 8(1): 57- 69.

นิธินันท์ กลั่นคูวัฒน์. (2559). ผลการจัดการเรียนการสอนแบบ TAI ร่วมกับกระบวนการแก้ปัญหาของโพลยาที่ส่งผล ต่อความ สามารถในการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษา มหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.

ลาวัณย์ รัตนจันทร์ และปรียา บุญญสิริ. (2563). การพัฒนาความ สามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการแก้ ปัญหาของโพลยา เรื่องการ บวกและการลบเศษส่วนสำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

วรางคณา สำอางค์. (2560). การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดย การจัดการเรียนรู้ ตามแนวคิดของโพลยา.วารสารมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูล สงคราม. 11(1): 52-61.

_________. ( 2562). การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหา

คณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการจัดการ เรียนรู้ ตามแนวคิดของโพลยา. กำแพงเพชร : โรงเรียนบ้านบึงพิ ไกร.

วิไลวรรณ สุระวนิชกุล. (2562). การพัฒนาความสามารถในการแก้ ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้การจัด กิจกรรมการเรียนรู้ ตาม แนวคิดโพลยา ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารการ วัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 25(2) : 226–238.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2550). ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว.

สุธิดา แสนวัง. (2562). การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ ปัญหาเคมี เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิคการแก้ปัญหาของ โพลยา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ปริญญา การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอน วิทยาศาสตร์และ คณิตศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (2545). พระราช บัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542. กรุงเทพฯ : สำนักการ พิมพ์ สำนักนายกรัฐมนตรีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2564). รายงานผล การประเมินคุณภาพผู้เรียน (National Test : NT) ปีการศึกษา 2564. กรุงเทพฯ: สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาแห่งชาติ.

อัจฉรา บุ่งนาแซง. (2565). การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ โจทย์ ปัญหาระคน ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การ จัดการเรียนรู้แบบเรียนปนเล่นร่วมมกับแบบฝึกทักษะ. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและ การสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชภัฏชัยภูมิ.

Polya, G. (1957). How to Solve It. New Jersey : Princeton University Press.

Downloads

Published

2024-12-27

How to Cite

Narakul, M., & สีพาย ส. (2024). การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ โจทย์ปัญหา โดยการจัดการเรียนรู้การแก้ปัญหาของโพลยาร่วมกับแบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3: The Developing Problem-Solving Skills and Academic Performance through Learning Management of Polya’s Problem-Solving Techniques and Skills Training Module for Grade 3 Elementary Students. Journal of Arts and Science Chaiyaphum Rajabhat University, 11(2), 1–14. retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/JAS_CPRU/article/view/269185