แนวทางการพัฒนาทักษะด้านความคิดรวบยอดของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4
Guidelines for Development Conceptual Skills of School Administrators under the Nakhon Ratchasima Primary Educational Service Area Office 4
คำสำคัญ:
แนวทางการพัฒนา, ทักษะด้านความคิดรวบยอด, ทักษะผู้บริหารสถานศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทักษะด้านความคิดรวบยอดของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อเปรียบเทียบการพัฒนาทักษะด้านความคิดรวบยอดของผู้บริหารสถานศึกษา โดยจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน และศึกษาแนวทางการพัฒนาทักษะด้านความคิดรวบยอดของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4 โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 123 กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ชนิดกึ่งโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากแบบสัมภาษณ์ด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสรุปเป็นความเรียง ผลการวิจัยพบว่า 1) ทักษะด้านความคิดรวบยอดของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการวินิจฉัย และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านการใช้คำถาม 2) การเปรียบเทียบทักษะด้านความคิดรวบยอดของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 และ 3) แนวทางการพัฒนาทักษะด้านความคิดรวบยอดของผู้บริหารสถานศึกษา พบว่าผู้บริหารต้องมีความสามารถในการคาดการณ์และวางแผนสำหรับเหตุการณ์และแนวโน้มในอนาคต มีทักษะการวิเคราะห์งาน การวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ สามารถคิดนอกกรอบ ความคิดใหม่ ๆ มีเทคนิคในการใช้คำถาม รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและนำไปใช้ในการวินิจฉัยอย่างมีประสิทธิภาพ ทำการวินิจฉัยบนพื้นฐานของเหตุผล ประเมินทางเลือกที่มีอยู่และเลือกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
เอกสารอ้างอิง
จอมพงศ์ มงคลวนิช. (2556). การบริหารองค์การและบุคลากรทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : วี.พริ้นท์.ทองอินทร์ ปัญญานาค. (2556). แนวทางพัฒนาการนำวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขดพื้นที่การศึกษา กำแพงเพชร เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
นลินี ทวีสิน. (2553). การศึกษาอัพเกรด. กรุงเทพฯ : มีดีอัพเกรด.
นิภาธร มุลกุณี. (2561). การพัฒนาทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 กรุงเทพมหานคร ใยุคไทยแลนด์ 4.0. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
รังสิรัตน์ โกสัยยะ. (2561). ทักษะการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษากับการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดยะลา. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
วัชราภรณ์ สุวรรณประทีป. (2563). ทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา. 12(1) : 683-692.
วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ (2557). คำถามสร้างวิสัยทัศน์. สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2566, จาก https://www.bangkokbiznews.com/blogs /columnist /105515
ศรัญญา น้อยพิมาย. (2562). ทักษะการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์. (2554). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ : พัฒนาศึกษา.
สมคิด บางโม. (2562). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
สุพรรษา ไตรรัตน์. (2562). การศึกษาทักษะผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 โรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
อัยรีน สมาแอ. (2562). การศึกษาภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
Katz, R.L. (1955). Skill of an effective administrator, Harvard Business Review. 33(1) : 31-42.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3) : 607-610
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.