รูปแบบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับสูญหายของผู้เสียหาย อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร
คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วมของประชาชน, การทรมาน, การบังคับสูญหาย, การป้องกันและปราบปราม, ผู้เสียหายบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการบังคับใช้กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร 2) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนกับการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหายของผู้เสียหาย อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร 3) เพื่อนำเสนอรูปแบบการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหายของผู้เสียหาย โดยใช้หลักสาราณียธรรม 6 อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ซึ่งคัดเลือกตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสม จำนวน 20 ท่าน และการจัดสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 รูปหรือท่าน
ผลการวิจัย พบว่า 1) ระบบกฎหมายและโครงสร้างทางสถาบันที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถรองรับการป้องกันและแก้ไขปัญหา คือการขาดนิยามทางกฎหมายที่ชัดเจนของการบังคับให้สูญหายในกฎหมายภายใน ตลอดจนการไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความร้ายแรงของการกระทำ 2) การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับสูญหายของผู้เสียหาย พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความตระหนักรู้ในสิทธิของตนเอง ไม่เข้าใจบทบาทของตนในการมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และกิจกรรมรณรงค์สาธารณะ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายได้ใช้เสียงของตนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ 3) รูปแบบการมีส่วนร่วม “หลักสาราณียธรรม ๖ ช่วยเปลี่ยนผู้เสียหายจากบทบาทผู้ถูกกระทำมาเป็นผู้ร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างมีศักดิ์ศรีต้องสร้างโครงสร้างที่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมทั้งทางกฎหมาย นโยบาย ทัศนคติสังคม และความเมตตาในเชิงปฏิบัติ คือพื้นฐานสำคัญของการป้องกันการละเมิดสิทธิในระยะยาวการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะบางทีความคิดเห็นของเราก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือดีที่สุดเสมอไป
เอกสารอ้างอิง
กมลยศ พันธุมาศโกมล และสุนีย์ มัลลิกะมาลย์. (2565). กฎหมายต้นแบบว่าการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นความมนุษย์. วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. 6(1), 93.
จรัญ โฆษณานันท์. (2559). สิทธิมนุษยชนไร้พรมแดน: ปรัชญากฎหมายและความเป็นจริงทางสังคม. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: นิติธรรม.
ชัญญณัท แก้วท่าไม้. (2567). ปัญหากฎหมายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ศึกษากรณีมาตรา 5 และมาตรา 22. (สารนิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
ชัยวัฒน์ สถาอานันท์. (2559). พื้นที่สันติวิธีหนทางสังคมไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ของเรา.
ปณิธาน พิมลวิชยากิจ. (2562). ผลกระทบในเชิงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเมื่อไม่มีกฎหมายบังคับใช้โดยเฉพาะกับปัญหาการบังคับสูญหาย. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 30(3), 128.
ปรัชญ์ชา กมลนิติธรรม และสุขสมัย สุทธิบดี. (2559). มาตรการทางกฎหมายเพื่อรองรับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์. 6(2), 150-175.
ปิติวรรณ ตันติชัยนุสรณ์ และสัญญพงศ์ ลิ่มประเสริฐ. (2565). ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหาย. วารสารนิติศาสตร์ รัฐศาสนศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย. 6(2), 207-224.
พระครูสุวรรณธรรมาภิมณฑ์ (สมชาย เจริญผา) และคณะ. (2565). การประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรมเพื่อส่งเสริมความสมานฉันท์ในการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารมหาจุฬาวิชาการ. 9(3), 222.
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน. และการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565. (2565, 25 ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 139 ตอนที่ 66 ก. หน้า 43-45.
มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ. (2558). การบังคับให้บุคคลสูญหาย ในประเทศไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ.
สหประชาชาติประเทศไทย. (2565). ข่าวประชาสัมพันธ์ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยินดีที่ประเทศไทยประกาศใช้ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย. สืบค้น 21 มิถุนายน 2567, จาก https://thailand.un.org/th/205302.
อนันต์ เพียรวัฒนะกุลชัย. (2568). ปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการบังคับชัพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565. วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี. 21(1), 252-265.
อัจฉรา ฉายากุล และคณะ. (2558). การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย. กรุงเทพมหานคร: บริษัทคลาสสิคสแกน.
Booth, M.; Hall, C.K. (2008). Crimes against humanity. In Commentary on the Rome Statute of the International Criminal Court: Observer’s Notes. Article by article, 2nd ed., edited by Triffterer, O., C.H. Beck-Hart Nomos.
Denzin, Norman K., and Yvonne S. Lincoln. (2000). Handbook of Qualitative Research. California: Sage Publications.
Nowak, M. (2012).Torture and enforced disappearance. In International Protection of Human Rights: A Textbook, Krause, C. Krause and M. Schein in. (eds.). (Turku: Institute for Human Rights, Abo Akademie University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มจร การพัฒนาสังคม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.