A DEVELOPMENT OF LESSON PLAN BY TEACHING THE COOPERATIVE LEARNING GROUP STAD TECHNIQUE TITLE: WRITING PROGRAM BY PYTHON LANGUAGE IN COMPUTING SCIENCE SUBJECT OF SECONDARY 2 EDUCATION STUDENTS WAT-AIYIKARAM SCHOOL
Main Article Content
Abstract
The objectives of this research are 1. to develop a learning management plan 2. to compare achievement before and after learning. Using collaborative group teaching 3. To study the satisfaction of Mathayom 2/1 students with the learning management plan. Using collaborative group teaching using the STAD technique on programming with Python in the subject Computational Science. It is quantitative research. (Quantitative Research) has research tools such as questionnaires with a population of 189 people by selecting a specific sample. There were 40 students in Mathayom 2/1 at Wat Aiyikaram School, semester 1, academic year 2022, and the data collected from the questionnaire were analyzed using descriptive statistics, consisting of percentage, mean, and standard deviation. The research results were found. that 1. Developing a learning management plan using cooperative group teaching and STAD techniques to find the consistency index of the learning management plan There was an overall index of conformity (IOC) of 0.86. 2. Measurement before and after organizing the activity. There was a statistical significant difference at the 0.01 level. Before organizing collaborative group teaching activities using the STAD technique, the mean was 12.45, standard deviation was 1.97, and after organizing group teaching activities. Collaborative STAD technique has a mean of 15.52 and a standard deviation of 1.61. 3. Satisfaction of Mathayomsuksa 2/1 students is overall at a high level of satisfaction. The mean is 4.20 and the standard deviation is 0.82.
Article Details
References
กนกภรณ์ ทองระย้า. (2557). ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเทคโนโลราชมงคลธัญบุรี.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2553). การจัดการเรียนรู้แนวใหม่. นนทบุรี: สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสซิ่ง.
บุญชม ศรีสะอาด. (2543). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปราณี กองจินดา. (2549). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และทักษะการคิดเลขในใจของ นักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบซิปปาโดยใช้แบบฝึกหัดที่เน้นทักษะการคิดเลขในใจกับนักเรียนที่ ได้รับการสอนโดยใช้คู่มือครู. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542. (2542,19 สิงหาคม) .ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 116 (ตอนที่ 74 ก), หน้า 1-23.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2545). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. พิมพครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: เฮาสออฟ เคอรมิสท.
พิมพันธ์ เตชะคุปต์. (2548). การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: เดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแบเนจเม็นท์.
ไพโรจน์ คะเชนทร์. (มปป). การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.wattoongpel.com/
ไพศาล วรคำ. (2552). การวิจัยทางการศึกษา (Educational Research). กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.
สมนึก ภัททิยธนี. (2549). การวัดผลการศึกษา. กาฬสินธุ: ประสานการพิมพ์.
ภูษิต สุวรรณราช. (2559). การปรียบเทียบทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องระบบสมการเชิงเส้นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบ 4MAT และการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วัฒนาพร ระงับทุกข์. (2545). แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
ศศิธร เวียงวะลัย. (2556). การจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮาส์.
สมพร เชื้อพันธ์. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองกับการจัดการเรียนการสอนตามปกติ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบันราชภัพระนครศรีอยุธยา.
สิริพร ทิพย์คง. (2545). หลักสูตรและการสอนคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ.
สุชาวดี เดชทองจันทร์. (2558). การศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาวิชาการบริหารท้องถิ่น : เปรียบเทียบการเรียนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD (Student Teams Achievement Division) กับการเรียนแบบบรรยายปกติ. กรุงเทพฯ: มหาวิิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
สุนีย์ ยามี. (2561). แบบฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมรู้จักกับภาษาไพทอน. โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเชียงราย.
สุภรณ์ ลิ้มบริบูรณ์. (2535). การวัดผลการเรียนภาคปฏิบัติ. วารสารครุศาสตร์.
สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ .(2545). 21 วิธีจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาระบบความคิด. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
ไสว ฟักขาว. (2544). การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: เอมพันธ์.
อทิติยา สวยรูป. (2556). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเรื่อง คอมพิวเตอร์เบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยการเรียนการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน.
อภิรัตน์ดา ทองแกมแก้ว และนพเก้า ณ พัทลุง. (2558). การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสตรีทุ่งสง. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยทักษิณ.
อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2550). หลักการสอน (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.