การตรวจพิสูจน์บุคคลในคดีอาญา: ศึกษากรณีการตรวจเลือดผู้ต้องหา ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ

ผู้แต่ง

  • วศิน สุวรรณรัตน์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์, คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90112, wasin.s@psu.ac.th

คำสำคัญ:

การตรวจพิสูจน์บุคคล, การตรวจเลือด, สิทธิและเสรีภาพ

บทคัดย่อ

            ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 ได้ให้อำนาจพนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่าง ๆ อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา และมาตรา131/1 ยังให้อำนาจพนักงานสอบสวนมีอำนาจให้ทำการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่ทั้งนี้ได้บัญญัติให้ความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี พนักงานสอบสวนมีอำนาจในการให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญตรวจเลือดผู้ต้องหาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีได้แต่ในเฉพาะกรณีที่ผู้ต้องหาให้ความยินยอมเท่านั้น  ในขณะที่กฎหมายต่างประเทศได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถบังคับตรวจเลือดผู้ต้องหาได้หากเห็นว่ามีความจำเป็น เช่น ศาลสหรัฐอเมริกาได้วางหลักในคำพิพากษาว่า ในกรณีจำเป็นรัฐสามารถที่จะทำการตรวจเลือดผู้ต้องหาได้ โดยวางหลักให้ผลประโยชน์ของรัฐในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมย่อมอยู่เหนือประโยชน์ของบุคคล  และตามหลักกฎหมายข้างต้นพนักงานสอบสวนจะสามารถตรวจเลือดได้ก็แต่เฉพาะบุคคลที่อยู่ในฐานะตกเป็นผู้ต้องหาแล้วเท่านั้น ทำให้เกิดปัญหาหากเป็นกรณีที่บุคคลนั้นยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาแต่อยู่ในสถานภาพของผู้กระทำผิดโดยเฉพาะในคดีความผิดทางเพศ แม้บุคคลที่กระทำไม่ได้ตกอยู่ในฐานะผู้ต้องหาแต่แพทย์ต้องการที่จะเจาะเลือดเพื่อหาเชื้อ HIV จากผู้กระทำนั้นเพื่อประกอบการพิจารณาถึงความจำเป็นในการให้ยาต้าน HIV ให้แก่ผู้เสียหายเพื่อรักษาผู้เสียหายได้อย่างทันท่วงที

เอกสารอ้างอิง

เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. (2553). คำอธิบายหลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่าด้วยการดำเนินคดีในขั้นตอนก่อนการพิจารณา. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร : พลสยาม พริ้นติ้ง.

คะนึง ฤาไชย. (2548). กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์เดือนตุลา.

ฉาดฉาน แต่งประณีต. (2557). การใช้อำนาจแสวงหาพยานหลักฐานจากร่างกายของผู้ถูกกล่าวหา: ศึกษาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131/1. (วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์).

ณรงค์ ใจหาญ. (2546). หลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์เดือนตุลา.

ณรงค์ ใจหาญ. (2554). การนำส่วนประกอบของร่างกายไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์: ศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายอังกฤษและกฎหมายนิวซีแลนด์. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง. 2554, 11-14.

บรรเจิด สิงคะเนติ. (2558). หลักพื้นฐานเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์วิญญูชน.

รุ่งระวี โสขุมา. (2539). ลายพิมพ์ ดี เอ็น เอ กับการดำเนินคดีอาญา. บทบัณฑิตย์. 52, 203.

วรพจน์ วิศรุตพิชญ์. (2530). การควบคุมการใช้ดุลพินิจทางปกครองโดยองค์กรตุลาการ. ใน สมยศ เขื้อไทย (บรรณาธิการ). เอกสารในโอกาสครบ 60 ปี ดร.ปรีดี เกษมทรัพย์. น. 206. กรุงเทพมหานคร : คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2553). โครงการศึกษาวิจัยเรื่อง การค้นตัวบุคคล: ศึกษาเปรียบเทียบกับนานาประเทศ (รายงานผลการวิจัย). กรุงเทพมหานคร : สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุรสิทธิ์ แสงวิโรจนพัฒน์. (2546). การตรวจร่างกายและการตรวจเลือดตามมาตรา 81a ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเยอรมัน. บทบัณฑิตย์. 59, 1-2.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-12-21

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ