รูปแบบนวัตกรการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของบุคลากรโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของนวัตกรการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของบุคลากรโรงเรียนเอกชน 2) สร้างรูปแบบนวัตกรการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 และ 3) ประเมินรูปแบบนวัตกรการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว การวิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณจำนวน 226 คน และผู้ให้ข้อมูลสำคัญเชิงคุณภาพจำนวน 20 คน คัดเลือกโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือวิจัยผ่านการตรวจสอบคุณภาพด้านความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบันของนวัตกรการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 ของบุคลากรโรงเรียนเอกชนสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่นอยู่ในระดับปานกลาง (x̅ = 3.34) โดยด้านการสร้างเครือข่ายมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือความรู้ด้านเทคโนโลยี และการบริหารความเสี่ยงมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ส่วนสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ = 4.68) โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับความรู้ด้านเทคโนโลยี การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง (PNI modified) พบว่า ด้านการสร้างเครือข่ายมีความจำเป็นเร่งด่วนสูงสุด รองลงมาคือ ความรู้ด้านเทคโนโลยี ภาวะผู้นำ และการบริหารความเสี่ยง
2. รูปแบบนวัตกรการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ การสร้างแรงบันดาลใจในการจัดการเรียนรู้ การกำหนดเป้าหมายและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การติดตามพฤติกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี และการคิดวิเคราะห์เชิงระบบ โดยบูรณาการหลักอิทธิบาท 4 ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้
3. ผลการประเมินรูปแบบพบว่า รูปแบบมีความเหมาะสม มีความเป็นไปได้ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เสริมสร้างเครือข่าย ความรู้ด้านเทคโนโลยี ภาวะผู้นำ และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2550). การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
กุลธิดา มะลิวัลย์, จุฬาพรรณภรณ์ ธนะแพทย์ และพระฮอนด้า วาทสทฺโท. (2564). ทักษะการบริหารตามหลักอิทธิบาท 4 ของผู้บริหารโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหนองบัวลำภู. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 6(2), 435-448. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/mcjou/article/view/249156
โกศล ภูศรี. (2564). กลยุทธ์การพัฒนาความเป็นนวัตกรของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ฐาปนา นิ่มไพศาล. (2559). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธีระ รุญเจริญ. (2559). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ประเวศน์ มหารัตน์สกุล. (2560). กลยุทธ์การวางแผนและการจัดการ. กรุงเทพฯ: ส. เอเชียเพรส 2989.
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562. (1 พฤษภาคม 2562). ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 136 ตอน 57 ก หน้า 79.
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2553). แนวทางการจัดการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สิริพร อินทรธรรม, วิทร วิภาหัส และประหยัด ฤาชากูล. (2566). การศึกษาแนวทางสมรรถนะด้านการพัฒนาตนเองของครูโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดสกลนคร. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล, 9(2), 63-72. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/scaj/article/view/263938
สุวิมล ว่องวานิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Joyce, B., Weil, M., & Calhoun, E. (2015). Models of teaching. (9th ed.). Boston, MA: Pearson Education.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610. https://doi.org/10.1177/001316447003000308