ปฏิบัติการทางสังคมของข้าราชการครูไทยในบริบทการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองในภาคใต้ตอนกลางของประเทศไทย: กรณีศึกษาโรงเรียนรัฐแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

Main Article Content

พศุตม์ ห้วยลึก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปฏิบัติการทางสังคมของข้าราชการครูไทยในบริบทของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองในภาคใต้ตอนกลางของประเทศไทย โดยศึกษาผ่านกรณีศึกษาข้าราชการครูในโรงเรียนรัฐแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการศึกษาแบบชาติพันธุ์วรรณนา โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาเอกสาร การสังเกตการณ์ และสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 29 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า ข้าราชการครูในโรงเรียนกรณีศึกษามีปฏิบัติการทางสังคมในรูปแบบที่แตกต่างหลากหลาย อาทิ การเป็นครูหรือกลุ่มครูผู้ประกอบการสถาบันกวดวิชา การแสดงตัวตนและจุดยืนเป็นครูที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมืองผ่านการใช้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปฏิบัติการ หรือเป็นข้าราชการครูที่ส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของนักเรียน รวมไปถึงการเป็นครูฝ่ายปกครองที่ผ่อนปรนกฎระเบียบในยุคสมัยที่มีกระแสการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของนักเรียนในสังคมไทย แต่มีข้าราชการครูที่แสดงจุดยืนในแง่ของการเป็นข้าราชการครูที่เคร่งครัดในระเบียบวินัยของรัฐไทย ในขณะเดียวกันมีข้าราชการครูที่ประยุกต์ใช้ศาสตร์ต่างๆ นอกเหนือจากความรู้ที่ร่ำเรียนมาเพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์กับนักเรียนและเครือข่ายความสัมพันธ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน สภาพการณ์ข้างต้นล้วนแล้วแต่สัมพันธ์กับเงื่อนไขของความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นภาคใต้ตอนกลางของประเทศไทย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ห้วยลึก พ. . (2025). ปฏิบัติการทางสังคมของข้าราชการครูไทยในบริบทการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองในภาคใต้ตอนกลางของประเทศไทย: กรณีศึกษาโรงเรียนรัฐแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 25(1), 261–278. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/dhammathas/article/view/273959
ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Article)

เอกสารอ้างอิง

กิตติวินท์ เดชชวนากร, อรพนิตา จรัสธนวรพัฒน์, พิชญาภา ตรีวงษ์ และเสาวลักษณ์ เรืองศรี. (2566). การศึกษาความสัมพันธ์เชิงอำนาจในระบบการจัดการศึกษาของไทย. วารสารสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 20(1), 11-36. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/citujournal/article/view/256584

เครก เจ. เรย์โนลด์ส. (2565). จดหมายจากสุดขอบโลก: คิดคำนึงถึงอดีตในปัจจุบัน. กรุงเทพฯ: สยามปริทัศน์.

ประจักษ์ ก้องกีรติ. (2565). ให้คนดีปกครองบ้านเมือง: การเมืองวัฒนธรรมของขวาไทย. นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน.

แพทริค โจรี และจิรวัฒน์ แสงทอง. (2563). รากเหง้าของลัทธิอนุรักษ์นิยมสุดโต่งในพุทธภูมิทางภาคใต้ของไทย. วารสารรูสมิแล, 41(3), 23-46. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/rusamelae/article/view/251152

ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์. (2564). วินัยและการลงทัณฑ์ในประวัติศาสตร์การศึกษาไทย (พ.ศ. 2475-2563). วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 17(2), 283-316. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jssnu/article/view/249610

ศุภการ สิริไพศาล, อภิเชษฐ กาญจนดิฐ, พรชัย นาคสิทอง และสุมาลี ทองดี. (2549). การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนชาวจีนเมืองหาดใหญ่จากอดีตถึงปัจจุบัน. วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ, 9(2), 42-54. https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/tsujournal/article/view/69005/56180

Bourdieu, P. (1986). The Forms of Capital. In John Richardson (Ed.), Handbook of Theory and Research for the Sociology of Education (pp. 241-258). New York: Greenwood Press.

Bourdieu, P. (1990). In Other Words: Essays toward a Reflexive Sociology. Stanford, CA: Stanford University Press.

Keyes, C. F. (1991). The Proposed World of the School: Thai Villagers’ entry into a Bureaucratic State System. In Charles F. Keyes (Eds.), Reshaping Local Worlds: Formal Education and Cultural Change in Rural Southeast Asia (pp. 89-130). New Haven, Connecticut: Yale University Southeast Asia Studies.

Kurzman, C., & Owens, L. (2002). Sociology of Intellectuals. Annual Review of Sociology, 28, 63-90. https://doi.org/10.1146/annurev.soc.28.110601.140745

Reynolds, C. J. (2019). Power, Protection and Magic in Thailand: The Cosmos of a Southern Policeman. Canberra: Australia National University Press.

Turton, A. (1991). Invulnerability and local knowledge. In M. Chitakasem & A. Turton (Eds.), Thai constructions of knowledge (pp. 155-182). London: School of Oriental and African Studies, University of London.