รูปแบบการทำสามีจิกรรมตามหลักพุทธปรัชญาเถรวาทของพระสงฆ์ในจังหวัดร้อยเอ็ด
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับสามีจิกรรม 2) ศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทที่เกี่ยวข้องกับสามีจิกรรม และ 3) วิเคราะห์รูปแบบการทำสามีจิกรรมตามหลักพุทธปรัชญาเถรวาทของพระสงฆ์ในจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้เครื่องมือคือแบบสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญประกอบด้วย พระสงฆ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีกรรมในจังหวัดร้อยเอ็ด รวมจำนวน 15 รูป/คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณนาแบบอุปนัย
ผลการวิจัยพบว่า
1. แนวคิดเกี่ยวกับสามีจิกรรม เป็นแนวคิดที่สะท้อนถึงอาจริยวัตรสำคัญของพระสงฆ์ในพุทธศาสนาเถรวาท ซึ่งมุ่งเน้นความกตัญญูกตเวที การเคารพลำดับพรรษา และการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในคณะสงฆ์
2. หลักพุทธปรัชญาเถรวาทที่เกี่ยวข้องกับสามีจิกรรม ประกอบด้วย 1) หลักคารวธรรม 6 ที่ส่งเสริมให้พระสงฆ์มีความเคารพนอบน้อมต่อกัน 2) หลักกตัญญูกตเวที ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะของสัตบุรุษ การแสดงออกถึงความกตัญญูย่อมนำมาซึ่งความสุขความเจริญ และ 3) หลักสาราณียธรรม เป็นธรรมที่ก่อให้เกิดความระลึกถึงกันด้วยเมตตา ปราศจากการวิวาท ส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความสามัคคีในหมู่สงฆ์
3. รูปแบบการทำสามีจิกรรมของพระสงฆ์ในจังหวัดร้อยเอ็ด จำแนกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ 1) การทำสามีจิกรรมแบบขอขมาโทษนอกอุโบสถ มักเกิดขึ้นระหว่างพระภิกษุหรือสามเณรที่มีเหตุขัดข้องหมองใจกัน เพื่อแสดงความสำนึกผิดและขอขมา และ 2) การทำสามีจิกรรมแบบถวายสักการะ มักเกิดขึ้นในโอกาสสำคัญ เช่น เข้าพรรษา เพื่อแสดงความเคารพต่อพระอุปัชฌาย์หรือครูอาจารย์ ถือเป็นอาจริยวัตรที่สะท้อนถึงความกตัญญูกตเวที การยึดถือลำดับพรรษา และเป็นกลไกสำคัญในการรักษาวินัยและความกลมเกลียวภายในคณะสงฆ์
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
ดนัย ไชยโยธา. (2543). พจนานุกรมพุทธศาสน์. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (2525). วัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน.
พระครูธรรมสารโกศล (สมรศักดิ์ ธมฺมสนฺติโก). (2560). แนวทางการเสริมสร้างกตัญญูกตเวทีในการดำเนินชีวิต ตามหลักคัมภีร์พุทธศาสนา. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระเทพวิสุทธิเมธี (ปัญญานันทภิกขุ). (2536). กตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี. กรุงเทพฯ: ธรรมสภา.
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช). (2541). พระในบ้าน. กรุงเทพฯ: คาธาวรรณการพิมพ์.
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต). (2541). ทางสายอิสรภาพของการศึกษาไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มูลนิธิพุทธธรรม.
_______. (2542). พุทธรรม ฉบับปรับปรุงและขยายความ. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
_______. (2554). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับบประมวลศัพท์. (พิมพ์ครั้งที่ 16). กรุงเทพฯ: สหธรรมิก.
พระวิรัตน์ ปภสฺสโร (ขาวสะอาด). (2561). การส่งเสริมหลักสังฆสามัคคีในพระพุทธศาสนา. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระสมุห์สันติ สุจิณฺโณ (พรมสงฆ์). (2567). วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของหลักสาราณียธรรมเพื่อสร้างความสามัคคี. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต พ.ศ. 2554. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คพับลิเคชั่นส์.
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร้อยเอ็ด. (2563). รายงานผลการดำเนินงานกิจการพระพุทธศาสนาในจังหวัดร้อยเอ็ด. ร้อยเอ็ด: สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
สำนักพัฒนาการประชาสัมพันธ์. (2558). ปัญหาสังคมไทยในปัจจุบัน. กรุงเทพฯ: กรุงเทพมหานคร.
สุวรรณฐา ลึม. (2560). แนวทางส่งเสริมกตัญญูกตเวทีในสังคมไทย. (ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.