แนวทางการพัฒนาสมรรถนะด้านการวิจัยของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะด้านการวิจัยของครู และ 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะด้านการวิจัยของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จำนวน 720 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์แบบจำลองสมการเชิงโครงสร้าง และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะด้านการวิจัยของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐาน (β = 0.134) ปัจจัยด้านตัวครู (β = 0.229) และปัจจัยด้านสนับสนุน (β = 0.537) โดยมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อสมรรถนะด้านการวิจัยของครูอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
2. แนวทางในการพัฒนาสมรรถนะด้านการวิจัยของครูแบ่งเป็น 5 ประเด็น ดังนี้ 1) การพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ด้านการวิจัย 2) การอบรมเชิงปฏิบัติการที่เน้นการลงมือทำจริง 3) การสนับสนุนทางด้านทรัพยากรและที่ปรึกษาทางวิชาการ 4) การลดอุปสรรคด้านเวลาและภาระงานของครู และ 5) การสร้างวัฒนธรรมการวิจัยและเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกัน
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
กุลชาติ พันธุวรกุล และเมษา นวลศรี. (2565). การวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะด้านการวิจัยในชั้นเรียนของครูปฐมวัย สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี. Journal of Modern Learning Development, 7(9), 183-199. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jomld/article/view/257208
จงกล บัวแก้ว. (2565). การพัฒนาสมรรถนะการทำวิจัยเพื่อการเรียนรู้ด้วยกระบวนการโค้ชและการวิจัยเป็นฐานของนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 16(2), 67-79. https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JOEMSU/article/view/249
ดรณ์ เทียนถาวรวงษ์, เชิดชัย ธุระแพง, ทองแท่ง ทองลิ่ม และยุทธ ไกยวรรณ์. (2566). ขั้นตอนและเครื่องมือวิจัยที่ใช้รวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (SEM). วารสารวิชาการเทคโนโลยีอุตสาหกรรม: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 11(1), 73-85. https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/fit-ssru/article/view/252391
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น ฉบับปรับปรุงใหม่. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.
ประทินทิพย์ พรไชยยา. (2561). การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23. วารสารวิชาการสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิก, 4(1), 25-43. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/pacific/article/view/177947
ปิยวรรณ บุญเพ็ญ, ยุทธนา ไชยจูกุล และดุษฎี โยเหลา. (2561). สมรรถนะวิจัยและตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัยให้ประสบความสำเร็จ: กรณีศึกษานักวิจัยในมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ. วารสารเกษมบัณฑิต, 19(1), 73-88. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jkbu/article/view/127780
พัชราภรณ์ พิลาสมบัติ และดวงกมล จงเจริญ. (2565). ทักษะการวิจัยของครูนักวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน. วารสารนวัตกรรมและการจัดการ, 7(1), 166-178. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journalcim/article/view/258058
พิมพ์ผกา จันเทพ และพิมพ์พร จารุจิตร. (2567). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะด้านวิจัยในชั้นเรียนของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 18(2), 120-133. https://so09.tci-thaijo.org/index.php/JOEMSU/article/view/3667
ศศิชญา ทวีทรัพย์, พิมพ์ประภา อมรกิจภิญโญ และธัญธรณ์ อมรกิจภิญโญ. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษาระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1. Journal of Modern Learning Development, 8(7), 156-171. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jomld/article/view/261605
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2552). รายงานประจำปี 2552. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2565). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน (พ.ศ. 2566-2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
เสถียร นิลบุตร และโกวัฒน์ เทศบุตร. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 2. วารสารการบริหารและนิเทศทางการศึกษา, 13(1), 148-160. https://so20.tci-thaijo.org/index.php/JAD/article/view/114
Browne, M. W., & Cudeck, R. (1993). Alternative ways of assessing model fit. In K. A. Bollen & J. S. Long (Eds.), Testing structural equation models (pp. 136-162). New York: Sage.
Comrey, A. L., & Lee, H. B. (2013). A First Course in Factor Analysis. (2nd ed.). New York: Psychology Press.
Creswell, J. W., & Creswell, J. D. (2022). Research design: Qualitative, quantitative, and mixed methods approaches. (6th ed.). New York: SAGE Publications.
Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). Multivariate data analysis. (7th ed.). New York: Pearson.
Hu, L. -t., & Bentler, P. M. (1999). Cutoff criteria for fit indexes in covariance structure analysis: Conventional criteria versus new alternatives. Structural Equation Modeling, 6(1), 1-55. https://doi.org/10.1080/10705519909540118
Kraft, M. A., & Papay, J. P. (2020). Developing workplaces where teachers stay, improve, and succeed. The Future of Children, 30(1), 125-146.
Organization for Economic Co-operation and Development. (2021). Education at a glance 2021: OECD indicators. OECD Publishing.
Stevens, J. (1996). Applied multivariate statistics for the social science. Lawrence Erlbaum Associate, Mahwah, New Jersey.
Tabachnick, B. G., & Fidell, L. S. (2007). Using multivariate statistics. (5th ed.). Allyn & Bacon/Pearson Education.
