การสื่อสารทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประเด็นสารทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย 2) กลยุทธ์การนำเสนอสารทางการเมือง และ 3) การมีส่วนร่วมในการสื่อสารทางการเมือง เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญประกอบด้วย 1) กลุ่มผู้บริหารพรรคเพื่อไทย จำนวน 6 คน 2) กลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารเพจเฟซบุ๊ก จำนวน 1 คน และ 3) กลุ่มแฟนตัวยง จำนวน 5 คน รวม 12 คน ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประเด็นสารทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย (1) ประเด็นสารทั่วไป ได้แก่ นโยบาย อุดมการณ์ ค่านิยมของพรรค ผลงานที่ผ่านมาและผลงานที่สะท้อนความน่าเชื่อถือของผู้นำ (2) ประเด็นสารแบบหวังผล ได้แก่ สร้างความนิยม กระตุ้นอารมณ์ ระดมพล และลดความนิยมกับฝ่ายตรงข้าม
2. กลยุทธ์การนำเสนอสารทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ได้แก่ (1) การโพสต์บนเฟซบุ๊กตามวันและเวลาที่มีผู้ชมจำนวนมาก (2) ใช้ภาษาทางการหรือภาษาที่เข้าใจง่าย (3) การใช้ภาพ เสียงและวิดีโอสั้นที่มีเนื้อหากระชับและสะดุดตา (4) การกระตุ้นเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม โดยการตั้งคำถามและสร้างกิจกรรม (5) การสร้างความน่าเชื่อถือของสาร โดยอ้างอิงงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับโดยใช้บุคคลหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงสนับสนุน
3. การมีส่วนร่วมในการสื่อสารทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยระหว่างทีมการสื่อสาร สส.พรรคเพื่อไทยกับผู้ติดตาม ประกอบด้วย 5 ระดับ ได้แก่ (1) การติดตามและการรับข้อมูล การกดไลก์ และกดติดตาม (2) การกดแชร์และแสดงความคิดเห็น (3) การมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการสร้างเนื้อหา การโพสต์รูปภาพ วิดีโอหรือเรื่องราวเกี่ยวกับพรรค (4) การมีส่วนร่วมด้วยการเข้าร่วมถามและตอบผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และ (5) การสนับสนุนและเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยการเชิญชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาร่วมสนับสนุนพรรค เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพและสร้างความสามัคคี
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์เอกสารอ้างอิง
กาญจนา แก้วเทพ. (2541). การวิเคราะห์สื่อ: แนวคิดและเทคนิค. กรุงเทพฯ: อินฟินิตี้.
_______. (2554). สื่อสารมวลชน: ทฤษฎีและแนวทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิชิต ทนงค์. (2550). การสื่อสารทางการเมืองกับการสร้างอัตลักษณ์ ประชาธิปไตยของเยาวชนในจังหวัดอุบลราชธานี. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
อรทัย ก๊กผล. (2552). คู่คิด คู่มือ การมีส่วนร่วมของประชาชนสำหรับผู้บริหารท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: จรัญสนิทวงศ์การพิมพ์.
Agee, W. K., Ault, P. H., & Emery, E. (1994). Introduction to Mass Communications. (11th ed.). New York: HarperCollins College Publishers.
Albarracin, D., & Shavitt, S. (2018). Attitudes and attitude change. Annual Review of Psychology, 69, 299-327. https://doi.org/10.1146/annurev-psych-122216-011911
Deutsch, K. W. (1966). The Nerves of Government: Models of Political Communication and Control. New York: Free Press.
Dommett, K., & Temple, L. (2018). Digital Campaigning: The Rise of Facebook and Satellite Campaigns. Parliamentary Affairs, 71(1), 189-202. https://doi.org/10.1093/pa/gsx056
Kotler, P., & Lee, N. (2008). Social marketing: Infuencing behaviors for good. (3rd ed.). SAGE Publications.
Metaxas, P. T., Mustafaraj, E., Wong, K., Zeng, L., O’Connor, B., & Gayo-Avello, D. (2011). What do retweets indicate? Results from user survey and meta-review of research. arXiv. https://arxiv.org/abs/1104.1142
Naaman, M., Boase, J., & Lai, C. -H. (2010). Is it really about me? Message content in social awareness streams. In Proceedings of the 2010 ACM Conference on Computer Supported Cooperative Work (CSCW) (pp. 189-192). ACM. https://doi.org/10.1145/1718918.1718953
WeVis. (2566). ส่องเพจพรรค โค้งสุดท้ายก่อน เลือกตั้ง 66. เข้าถึงได้จาก https://wevis.info/election-on-social-3/