โปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาองค์ประกอบ ตัวชี้วัด ความต้องการจำเป็น และเพื่อนำเสนอโปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบ ตัวชี้วัดและความต้องการจำเป็นของภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหารสถานศึกษา ครู จำนวน 359 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้เทคนิคการสุ่มแบ่งชั้นตามสัดส่วน แล้วสุ่มอย่างง่าย ระยะที่ 2 โปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ จำนวน 3 แห่ง กลุ่มผู้ประเมินโปรแกรม ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 12 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น
ผลการวิจัยพบว่า
1.ได้องค์ประกอบ การมีจินตนาการ การมีวิสัยทัศน์และทักษะการคิด การมีความไว้วางใจความน่าเชื่อถือ และการมีความยืดหยุ่นเพื่อความสำเร็จ ลําดับความต้องการจํา เป็นจากมากไปน้อย คือการมีความยืดหยุ่นเพื่อความสำเร็จ การมีวิสัยทัศน์และทักษะการคิด การมีจินตนาการ และการมีความไว้วางใจน่าเชื่อถือ
2.ได้โปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นําเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริหารโรงเรียนประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา 4 Module กิจกรรมการพัฒนา และการวัดและประเมินผล รวมระยะเวลา 34 ชั่วโมง วิธีการดําเนินการพัฒนา ได้แก่ การศึกษาด้วยตนเอง การอบรม การศึกษาดูงาน และการปฏิบัติจริง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กนกรัตน์ ภู่ระหงษ์. (2549). ประสิทธิผลการดำเนินงานตามมาตรฐานการศึกษาด้านผลผลิตของผู้บริหารและพนักงานครูในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลจังหวัดสระบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต : มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.
กลุ่มนโยบายและแผนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32. (2561). แผนปฏิบัติการประจำปี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561. บุรีรัมย์: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32.
เกษม เมษินทรีย์. (2559).ยุทธศาสตร์และการปฏิรูปสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2553). ความคิดเชิงสร้างสรรค์. กรุงเทพมหานคร: ซัคเซสมีเดียจำกัด.
ธีระ รุญเจริญ.(2551). ความเป็นมืออาชีพทางการบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ข้าวฟ่าง.
ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์. (2559). การศึกษาไทย 4.0 ในบริบทการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน. 28 สิงหาคม 2559. โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์แจ้งวัฒนะ. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ประชุมวายุภักษ์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยา สาส์น.
พัชรา วาณิชวศิล. (2560). การพัฒนาภาวะผู้นำ : จากทฤษฎีสู่แนวปฏิบัติที่ดีและกรณีการศึกษากรุงเทพมหานคร: ปัญญาชน.
พรชัย เจดามาน และคณะ. (2560). ทรัพยากรมนุษย์: มิติการบริหารจัดการศตวรรษที่ 21 อย่างยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: สูตรไพศาลบิวเดอร์.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2553). ผู้นำเชิงสร้างสรรค์และผลิตภาพ : กระบวนทัศน์ใหม่และผู้นำใหม่ทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศักดิ์ชัย ภูเจริญ. (2553). การสรางรูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะผูนําของผูบริหารโรงเรียน สังกัด สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ปริญญาคุรุ ศาสตรดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาบริหารการศึกษาคณะคุรุศาสตร์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
อนันต์ พันนึก. (2554). การวิจัยและพัฒนาโปรแกรมพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อรชร กิตติชนม์ธวัช. (2558). การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาบริหารการศึกษา : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
McCauley, R.N.(1986).Problem Solving in Science and the Competence Approach to Theorizing in Linguistics. Journal for the Theory of Social Behaviour, 16 (3), 288-310.