การพัฒนารูปแบบป้องกันการทุจริตเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชน ในอำเภอเมือง จังหวัดเลย

Main Article Content

ศตวรรษ สงกาผัน

บทคัดย่อ

        การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ 1) ศึกษาปัญหาการป้องกันการทุจริตในอำเภอเมือง จังหวัดเลย 2) พัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตโดยการสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชนใน อำเภอเมือง จังหวัดเลย และ 3) วิเคราะห์องค์ความรู้และรูปแบบการป้องกันการทุจริตโดยการสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชนในอำเภอเมืองเลยการวิจัยนี้เป็นแบบการวิจัยผสานวิธี (Mix Method) ระหว่างการเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research )
        ผลการวิจัยพบว่า 1) ศึกษาปัญหาการป้องกันการทุจริตในอำเภอเมือง จังหวัดเลย พบว่า  ปัญหาการทุจริตที่สำคัญ มีการลงทุนทางการเมืองโดยใช้เงินเพื่อจูงใจให้ประชาชนเลือกตนเองเข้ามา มีการทุจริตเชิงนโยบาย การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารงบประมาณ การสรรหาบุคลากรที่ไม่โปร่งใส การจัดสรรงบประมาณไม่เป็นธรรม มีการประมาณราคาที่สูงกว่ามาตรฐาน การตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำที่เป็นเงินค่าตอบแทน เงินค่า ใช้สอยและเงินค่ารับรอง พิธีการต่างๆ ไว้สูง 2) พัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตโดยการสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชนใน อำเภอเมือง จังหวัดเลย พบว่า การพัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตในจังหวัดเลย แม้ว่าค่านิยมในสังคมไทยปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานสังกัดกระทรวงก็ยังคงให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันการทุจริตยึดกฎระเบียบข้อบังคับเป็นรูปแบบในการพัฒนาการป้องกันการทุจริตโดยยึดมั่นในการปฏิบัติงานเป็นส่วนรวม 3) วิเคราะห์องค์ความรู้และรูปแบบการป้องกันการทุจริตโดยการสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชนในอำเภอเมืองเลย พบว่า การพัฒนารูปแบบการป้องกันการทุจริตแบบยั่งยืน ควรสร้างวัฒนธรรมองค์กรความมีจรรยาบรรณของพนักงานในสายงานวิชาชีพ เพื่อเป็นมาตรการในการสร้างค่านิยมความมีจริยธรรมร่วมกัน โดยมีการจัดสวัสดิการให้กับพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน โดยยึดหลักความโปร่งใสและความสามารถของพนักงาน เพื่อที่จะเป็นฐานการตรวจสอบจากภาครัฐและภาคประชาชน ซึ่งในกระบวนการดังกล่าวจัดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพื่อที่จะให้สอดคล้องกับ หลักแนวส่งเสริมแนวคิดหลักธรรมาภิบาลแบบยั่งยืนตลอดไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สงกาผัน ศ. . (2020). การพัฒนารูปแบบป้องกันการทุจริตเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันของประชาชน ในอำเภอเมือง จังหวัดเลย. Journal of Modern Learning Development, 5(5), 28–41. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jomld/article/view/243824
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

นวลจันทร์ ทัศนชัยกุล. (2548). อาชญากรรม การป้องกัน : การควบคุม. นนทบุรี: พรทิพย์การพิมพ์.

มานิตย์ จันทร์จำเริญ. (2535). การมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ในเขตรับผิดชอบ ของสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ยุทธ ไกยวรรณ์. (2535). พื้นฐานการวิจัย. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์นการพิมพ์.

วุฒิชัย สุคนธวิท. (2545). การมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรม : ศึกษาเฉพาะกรณีกองบังคับการตำรวจนครบาล 9. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ส่งศรี ชมพูวงศ์. (2548). การออกแบบการวิจัย. นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช.

สายัณห์ อินนันใจ. (2557). แนวคิดและหลักปฏิบัติการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ตามแนวพุทธศาสนา (รายงานการวิจัย). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สุชน ประวัติดีและคณะ. (2555). รูปแบบการจัดการความขัดแย้งโดยสันติวิธีขององค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดชลบุรี. (รายงานการวิจัย). พระนครศรีอยุธยา : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สุภางค์ จันทวานิช. (2533). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 18). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ธรรมดาเพรส.