แนวทางการส่งเสริมการบริหารงานบุคคลตามหลักพรหมวิหาร4 ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดหนองบัวลำภู

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการบริหารงานบุคคลตามหลักพรหมวิหาร 4 และเสนอแนวทางการส่งเสริมการใช้หลักพรหมวิหาร 4 ในการบริหารงานบุคคล ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดหนองบัวลำภู ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสม กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหารสถานสถานศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 210 คน กลุ่มเป้าหมายได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน ซึ่งได้มาโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง จำนวน 10 คน ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา 5 คน และครูผู้สอน 5 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
          ผลการวิจัยพบว่า
          สภาพการบริหารงานบุคคลตามหลักพรหมวิหาร 4 ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดหนองบัวลำภู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนมีการนำหลักพรหมวิหาร 4 มาประยุกต์ใช้ให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น  เพื่อพิจารณารายด้านสามารถสรุปอภิปรายผลได้ดังนี้
          1. การบริหารงานบุคคลตามหลักพรหมวิหาร 4 ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดหนองบัวลำภู พบว่า โดยรวมและรายด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และเมื่อจำแนกเป็นรายด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับสูงสุด คือ ด้านการบริหารตามหลักมุทิตา รองลงมาคือ ด้านการบริหารตามหลักอุเบกขา และด้านการบริหารตามหลักกรุณา ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยการปฏิบัติอยู่ในระดับต่ำสุด คือ ด้านการบริหารตามหลักเมตตา
          2. ข้อเสนอแนะในเรื่องแนวทางการส่งเสริมการบริหารงานบุคคลตามหลักพรหมวิหาร 4 ของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการ จังหวัดหนองบัวลำภู มี 4 ประเด็น ดังนี้ 1) ด้านการบริหารตามหลักเมตตา ควรปฏิบัติงานของตนอย่างสุดความสามารถ มีความเมตา ปรารถนาดี มีความโปร่งใส 2) ด้านการบริหารตามหลักกรุณา ควรส่งเสริมให้บุคลากรยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3) ด้านการบริหารตามหลักมุทิตา ควรเลือกสรรเอาบุคลากรที่ดี มีศักยภาพ 4) ด้านการบริหารตามหลักอุเบกขา ควรพัฒนาติดตามผลการปฏิบัติงานบุคลากรอย่างเป็นระบบและยึดหลักความเป็นกลาง