กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นโรงเรียนคุณธรรม
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นโรงเรียนคุณธรรม 2) รับรองกลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นโรงเรียนคุณธรรม การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสม ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้เครื่องมือการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างการวิจัยประกอบด้วย โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ 3 ดาว ที่มีคุณสมบัติเข้ารับการพิจารณายกระดับคุณภาพโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ 4 ดาว จำนวน 136 โรงเรียน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้รับผิดชอบโครงการและครูผู้สอน รวมทั้งสิ้น 408 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1) กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นโรงเรียนคุณธรรม มี 5 กลยุทธ์หลัก คือ 1) ผลักดันกระบวนการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในสถานศึกษา 2) ขับเคลื่อนกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมในสถานศึกษาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองและชุมชน) 3) เสริมสร้างองค์ความรู้/นวัตกรรมการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในสถานศึกษา 4) พัฒนาแหล่งเรียนรู้ของสถานศึกษา 5) ส่งเสริมหลักการบริหารสถานศึกษา โดยมี 8 กลยุทธ์รอง 34 วิธีดำเนินการ ผลการประเมินกลยุทธ์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
2) รับรองกลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นโรงเรียนคุณธรรม พบว่า กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นโรงเรียนคุณธรรม ซึ่งประกอบด้วย 5 กลยุทธ์หลัก 8 กลยุทธ์รอง และ 34 วิธีการดำเนินการ ในภาพรวมมีความถูกต้องอยู่ในระดับมากที่สุด มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด มีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้อยู่ในระดับมาก และมีความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด จากค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่คำนวณได้นั้นมีค่าใกล้เคียงกัน ผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 7 คน ส่วนใหญ่ให้คะแนนในระดับ 4 และ 5 แสดงให้เห็นว่าผู้ทรงคุณวุฒิ/ผู้เชี่ยวชาญได้มีฉันทามติให้กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาเพื่อส่งเสริมการเป็นโรงเรียนคุณธรรม ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีความถูกต้อง เหมาะสม มีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ได้ และมีความเป็นประโยชน์ ส่วนแนวทางการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัตินั้นผู้บริหารสถานศึกษาต้องแสดงพฤติกรรมที่เป็นแบบอย่าง มีระบบการสื่อสารและระบบการพัฒนาบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการกำกับ ติดตามอย่างสม่ำเสมอ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภาลาดพร้าว
คำตัน วิชัยคำจร กิทธินส์. (2555). กลยุทธ์การบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่มีคุณสมบัติเข้ารับการพิจารณายกระดับคุณภาพโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับ 4 ดาว. กรุงเทพมหานคร.
นิเวศน์ วงศ์สุวรรณ. (2560). การบริหารแบบมีส่วนร่วม. วารสารมหาจุฬาวิชาการ. 4 (1), 176-187.
วันชัย โกลละสุต. (2560). การบริหารแบบมีส่วนร่วม. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2562. แหล่งที่มา: http://kmcenter.rid.go.th/kmc08/km_53/km_team53.htm.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจําเป็น. กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2552). เอกสารประกอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551: แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา. (2545). แนวทางการบริหารและการจัดการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานปฏิรูปการศึกษา.
ศูนย์โรงเรียนคุณธรรม มูลนิธิยุวสถิรคุณ. (2560). กระบวนการพัฒนาโรงเรียนคุณธรรมทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ. กรุงเทพมหานคร: สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสชิ่ง
Argyris, C. (1964). Interpersonal competence and organizational effectiveness. Homewood: Irwin - Dorsey.
