การประเมินโครงการพัฒนาระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานศาลยุติธรรม

Main Article Content

กัลทลี เพ็งวิภาค
ศาศวัต เพ่งแพ

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานศาลยุติธรรม โดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPP Model (2) ศึกษาปัญหา อุปสรรคของโครงการฯ และเสนอแนะการพัฒนาระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานศาลยุติธรรม และ (3) เปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อการประเมินโครงการพัฒนาระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานศาลยุติธรรม
          ผู้วิจัยได้ใช้วิธีการศึกษาปริมาณ (Quantitative Research) เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ จำนวน 236 คน ความเชื่อมั่นร้อยละ 95 โดยใช้วิธีการสุ่มแบบบังเอิญ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 5 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปโดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทำการทดสอบความแตกต่างความคิดของด้วยการทดสอบค่าที (t – test) ค่าเอฟ (F – test) และ One-Way ANOVA วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเอกสาร ใช้วิธีการวิเคราะห์เอกสารเนื้อหา (Content Analysis)
          ผลการวิจัย พบว่า (1) ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานด้านบริบท (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการ (Process) และ ด้านผลผลิต (Product) ในภาพรวม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =  3.97, S.D. = .76) (2) ปัญหาของโครงการในแต่ละด้าน มีดังนี้ ด้านบริบท ได้แก่ ปริมาณงานที่มาก ด้านปัจจัยนำเข้า ได้แก่ งบประมาณไม่เพียงพอและความไม่ชำนาญในการใช้ระบบ ด้านกระบวนการ ได้แก่ ขาดการพัฒนาปรับปรุงระบบการทำงานอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านบุคลากรและตัวระบบ และขาดการประสานงานระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ด้านผลผลิต ได้แก่ ขาดการติดตามและประเมินผลจากผู้ปฏิบัติงานจริง (3) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่าปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน ตำแหน่งงาน และสถานที่ปฏิบัติงานที่ต่างกันมีความคิดเห็นต่อโครงการในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และพบว่าปัจจัยการเป็นผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ที่ต่างกันมีความคิดเห็นต่อโครงการในภาพรวมไม่แตกต่างกัน
          ข้อเสนอแนะเห็นควรมีศูนย์ควบคุมระบบบริหารจัดการส่วนกลาง ทำหน้าที่พิจารณาจัดสรรทรัพยากรไปยังส่วนงานที่รับผิดชอบอย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เพ็งวิภาค ก. . ., & เพ่งแพ ศ. . . (2022). การประเมินโครงการพัฒนาระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ของสำนักงานศาลยุติธรรม. Journal of Modern Learning Development, 7(2), 56–64. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jomld/article/view/252410
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ศาลยุติธรรม. (2562). ศาลยุติธรรม. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2562. แหล่งที่มา: https://esv-iprd.coj.go.th/GuideCOJ2017/mobile/index.html#p=29

ศาลยุติธรรม. (2562). บันทึกข้อความ ส่วนสารบรรณกลางและศูนย์ข้อมูลข่าวสาร สำนักบริหารกลาง เรื่อง ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน. ที่ ศย 005(ส)/183 ลงวันที่ 24 มกราคม 2562.

ศาลยุติธรรม. (2562). บันทึกข้อความ สำนักบริหารกลาง เรื่อง การพัฒนาระบบการรับ-ส่งหนังสือ สำนักงานศาลยุติธรรม โดยระบบอิเล็กทรอนิกส์. ที่ ศย 005 (ส)/183 ลงวันที่ 24 มกราคม 2562.

ศาลยุติธรรม. (2562). หนังสือเวียน สำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง แจ้งการใช้งานระบบโปรแกรมสารบรรณ อิเล็กทรอนิกส์. ที่ ศย 005/ว611 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2562.

ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม. (2562). หนังสือรายงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562. กรุงเทพมหานคร: ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม.

Shamsa Aziz and Munazza Mahmood. (2018). Implementation of CIPP Model for Quality Evaluation at School Level: A Case Study. International Islamic University, Islamabad.

Siswadi, Y., Houghty, G. S., & Agustina, T. (2019). Implementation of the CIPP evaluation model in Indonesian nursing schools. Jurnal Ners. 14 (3si), 126-131.

Stufflebeam, D. L. (1971). “The relevance of the CIPP evaluation model for educational accountability”. Journal of Research and Development in Education. 5 (1), 19-25.