นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) กระบวนการและการจัดการการผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ และ 2) นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้เครื่องมือการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มเป้าหมายจำนวน 33 คน และการสนทนากลุ่มย่อย จำนวน 12 คน ใช้วิธีการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงจากผู้ให้ข้อมูลที่อิ่มตัว รวบรวมข้อมูลและนำเสนอผลการวิจัยแบบพรรณนาความ
ผลการวิจัยพบว่า 1) กระบวนการและการจัดการการผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ตำบลผักไหม อำเภอ ห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ชาวนาตำบลผักไหมมีการรวมกลุ่มกันในรูปแบบของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ โดยกระบวนการและการจัดการการผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ของกลุ่มฯ ที่สำคัญมี 15 ขั้นตอน คือ (1) การเลือกพื้นที่ปลูก (2) การเลือกใช้พันธุ์ข้าว (3) การเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวก่อนปลูก (4) การเตรียมดิน (5) วิธีปลูกข้าว (6) การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน (7) มีระบบการปลูกพืชบำรุงดิน (8) มีการควบคุมวัชพืชในพื้นที่นา (9) การป้องกันกำจัดโรค แมลงศัตรูพืช (10) การจัดการน้ำในพื้นที่นา (11) การเก็บเกี่ยว การนวด การลดความชื้นข้าว (12) การเก็บรักษาข้าวเปลือกหลังเก็บเกี่ยว (13) การสีข้าว (14) การเพิ่มมูลค่าการผลิต และ (15) ลักษณะข้าวที่จำหน่ายหรือเข้าโครงการประกันราคา และ 2) นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นนวัตกรรมที่ช่วยในการบริหารจัดการการผลิตข้าวนาแปลงใหญ่ ประกอบด้วย (1) เทคโนโลยีระบบส่งน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ฯ (2) เทคโนโลยีการบำรุงรักษาผลผลิตด้วยโดรน (3) เทคโนโลยีเครื่องคัดแยกสีเม็ดข้าว (ยิงสี) (4) เทคโนโลยีการผลิตข้าวด้วยเครื่องหยอดนาข้าวแห้ง (5) เทคโนโลยีเครื่องเพาะกล้า (6) เทคโนโลยีรถดำนา/เครื่องโรยกล้า (7) เครื่องบรรจุภัณฑ์ฯ (8) เทคโนโลยีเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ความชื้นข้าว (9) เทคโนโลยี GPS (10) เทคโนโลยีรถไถนา/รถแทรกเตอร์ (11) เทคโนโลยีรถเกี่ยวนวดข้าว และ (12) เทคโนโลยีเครื่องอัดฟางข้าว
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการเกษตร. (2560). การปลูกพืชหลังนา. กรุงเทพมหานคร: นิวธรรมดาการพิมพ์.
จันทิรา โพธิ์ถิน และคณะ. (2562). การออกแบบและพัฒนาเครื่องหยอดข้าวนาแห้งแบบพ่วงรถไถเดินตาม. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
จุฑามาศ ไกรเพิ่ม และคณะ. (2557). การจัดการดินและปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อการผลิตข้าวของเกษตรกรตำบลกระเบื้องใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช.
จิตติวรรณ บำรุงบุตร. (2563). ประสิทธิภาพการจัดการน้ำด้วยวิธีแบบเปียกสลับแห้งต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตข้าว. วารสารมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี). 12 (24), 10-22.
นภาพร เวชกามา และคณะ. (2561). การพัฒนาการทำนาข้าวอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรผสมผสาน 4 หมู่บ้านห้วยหลาว อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
พงศ์ศิรภพ ทองดีรวิสุรเกตุ. (2564). ปัจจัยการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมระบบเกษตรนาแปลงใหญ่ของเกษตรกรในจังหวัดกาญจนบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี. 8 (1), 107 – 119.
ไพฑุรย์ ฝางคำ. (2562). ประวัติการก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ. ศรีสะเกษ: กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ
รภัสสรณ์ คงธนจารุอนันต์ และอารีย์ เชื้อเมืองพาน. (2561). ประสิทธิภาพการผลิตข้าวระหว่างนาดำและนา
หว่านของเกษตรกรในภาคเหนือตอนบน. วารสารวิจัยและส่งเสริมการเกษตร. 35 (3), 1 – 8.
วินิต ชินสุวรรณ. (2561). การประเมินความสูญเสียจากเครื่องเกี่ยวนวดข้าว เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว. (2558). การผลิตข้าวอินทรีย์ (หลักการผลิตข้าวอินทรีย์). ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 30 ธันวาคม 2563. แหล่งที่มา: http://prangku.sisaket.doae.go.th/learning
/rice/organic%20rice/index.php-file=content.php&id=4.htm.
สุรัตน์ อัตตะ. (2558). 'ผักไหมโมเดล' ที่นาต้นแบบ อานิสงส์ 'เกษตรแปลงใหญ่' ใน บทความหนังสือพิมพ์
คมชัดลึก. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 24 มิถุนายน 2562. แหล่งที่มา: http://www.komchadluek .net/news/lifestyle/216208.
McDonald, M.B. (1999). Seed Technology and its Biological Basis. England: Sheffield
Academic Press.
Rogers, E., & Shoemaker, F. (1978). Communication of innovations: A cross-cultural approach. New York: Free Press.