การพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 2) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนา กลุ่มเป้าหมาย ในการวิจัยคือครูโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน จำนวน 25 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1– 6 จำนวน 410 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 435 คน เป็นระยะ 1 ปีการศึกษาตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 2563 - เดือนมีนาคม 2564 เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัยประกอบไปด้วย แบบวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตพฤติกรรมแบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการประชุม แบบบันทึกการนิเทศ) รวมทั้งสิ้น 12 ฉบับ ซึ่งผู้วิจัยได้ พัฒนาขึ้นและมีการตรวจสอบคุณภาพ โดยมีค่าความตรงเชิงโครงสร้างตั้งแต่ 3.50 และผู้วิจัยได้ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสานวิธี (Mixed Methods) โดยเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งข้อมูลเชิง ปริมาณ และข้อมูลเชิงคุณภาพ ซึ่งสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้วิจัยได้ใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติอ้างอิงในการเปรียบเทียบข้อมูลด้านความรู้ ด้านการการนิเทศภายใน ความรู้ความเข้าใจด้านการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังการใช้รูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และนำเสนอผลโดยการพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการพัฒนาการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน หลักการวัตถุประสงค์ปัจจัยสนับสนุนและขั้นตอน การโค้ช 8 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น และกำหนดประเด็นการพัฒนา (Analyzing Needs and Deciding Focus : A) ระยะที่ 2 การเตรียมการด้านความรู้และทักษะการปฏิบัติการโค้ช (Preparing Knowledge and Skills for Coaching : P) ระยะที่ 3 การร่วมมือกันวางแผนและกำหนดวัตถุประสงคของการพัฒนา (Collaborative Planning and Setting Objective : C) ระยะที่ 4 การปฏิบัติการโคช (Coaching : C) ระยะที่ 5. การทบทวนระหว่างกระบวนการและอภิปรายไตร่ตรองสะท้อนคิด (Mid Cycle Reviewing and Reflective Discussion : M) ระยะที่ 6 การดำเนินการปฏิบัติการโค้ชต่อ (Proceeding Coaching Cycle : P) ระยะที่ 7 การทบทวนไตร่ตรองสะท้อนคิดและสรุปผล (Reflective Reviewing and Conclusions : R) และระยะที่ 8 การประเมินผลการใช้รูปแบบการโค้ชร่วมกัน (Collaborative Evaluation of Coaching Model Implementation : E) ผลการตรวจสอบร่างรูปแบบต้นแบบการโค้ช โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน พบว่า ประสิทธิภาพด้านความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีความเป็นไปได้ของรูปแบบ และความสอดคลองของรูปแบบ รายข้อมี ค่าระหว่าง 3.80 - 4.80 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ระหว่าง 0.44 – 0.89
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารคุณภาพสถานศึกษา โดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนชีวิตวิถีใหม่ ของโรงเรียนหนองสังข์วิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ครูได้รับความรู้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จากการอบรมฝึกอบรมจากวิทยากมาให้ความรู้ การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจ การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพมากพอสมควร แต่ครูไม่ได้นำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมมาจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน เพราะครูคิดว่ามีความยุ่งยากในการสอนมาก ยากต่อการทำความเข้าใจของนักเรียน ใช้เวลาในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพมากทำให้สอนไม่ทันตามเนื้อหา จากปัญหาดังกล่าวครูผู้ร่วมวิจัยได้เสนอแนวทางในการพัฒนา คือ จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการที่ทำให้ครูรู้และเข้าใจหลักการสอนโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพไม่ได้ยุ่งยากดังที่คิด และให้มีการช่วยเหลือแนะนำในระหว่างที่ครูจัดการเรียนการสอน ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรรณิกา กันทำ. (2561), ทักษะภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21 สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. 12 (2), 18-29.
ชูชาติ พ่วงสมจิตร์. (2560). การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน. Veridian EJournal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทยสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ. 10 (2), 1342-1354.
มาเรียม นิลพันธ์. (2551), วิธีวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 5). นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุภางค์ จันทวานิช. (2547), พฤติกรรมรวมหมู่ ในสังคมและวัฒนธรรม. (พิมพ์ครั้งที่ 9). สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. (2556), ข้อเสนอโครงการประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) รอบ 3 ปี (พ.ศ. 2555-2557) และโครงการศึกษาและประเมินเพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานของ สวก. ในทศวรรษหน้าเสนอต่อ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน).