การพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดกิจกรรมแบบกลวิธีการเสริมต่อการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจทั้งก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมแบบกลวิธีการเสริมต่อการเรียนรู้สำหรับนักเรียน และ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมที่พัฒนาขึ้น กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3/10 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมแบบกลวิธีการเสริมต่อการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ จำนวน 20 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้ชุดกิจกรรมแบบกลวิธีการเสริมต่อการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความแตกต่าง และคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์ ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนและนักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กานต์รวี ศรีลางค์. (2556). ความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนด้วยยุทธศาสตร์การเสริมต่อการเรียนรู้ประสบการณ์การอ่าน. รายงานการศึกษาอิสระ. คณะศึกษาศาสตร์: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2545). เทคโนโลยีทางการศึกษา. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ชัยวัฒน์ บวรวัฒนเศรษฐ์. (2559). ยุทธศาสตร์การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเสริมต่อการเรียนรู้. วารสารวิชาการแพรวากาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์. 3 (2), 154-179.
ทัศนีย์ เศรษฐพงศ์ และวิภาวรรณ เอกวรรณัง. (2563). การพัฒนาความสามารถในการรู้เรื่องการอ่านตามแนวทางการสอบแบบ PISA โดยใช้แนวคิดการอ่านจากต้นแบบของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 43 (1), 85-98.
ทิศนา แขมมณี. (2551). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธนรัตน์ แต้วัฒนา, สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ และธีรพงษ์ วิริยานนท์. (2555). ทฤษฎีการช่วยเสริมศักยภาพการเรียนรู้สำหรับการสนับสนุนผู้เรียนในการเรียนรู้ออนไลน์. วารสารวิชาการอุตสาหกรรมศึกษา, 6 (1), 1-11.
ปรียารัตน์ ศรีชัยวงค์. (2564). วัฒนธรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจในยุคศตวรรษที่ 21: มองผ่านหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 9 (6), 2678-2689.
ปวีณา เมืองมูล, นพรัตน์ สรวยสุวรรณ และเทพนคร ทาคง. (2561). การศึกษาพฤติกรรมการสอนของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูสาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 11 (1), 85-97.
พระอุดมธีรคุณ และบัณฑิตา จารุมา. (2563). ภาษาและวัฒนธรรม: ความหมาย ความสำคัญ และความสัมพันธ์ระหว่างกัน. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 7 (2), 53-63.
รัชชประภา วิจิตรโสภา, รุ่งฟ้า กิติญาณุสันต์ และปริญญา ทองสอน. (2563). การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการอ่านเเบบ SQ3R เพื่อพัฒนาความเข้าใจในการอ่าน เเละพฤตกิรรมการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์). วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 15 (1), 57-69.
วิชัย วงษ์ใหญ่. (2525). พัฒนาสื่อการเรียนการสอนมิติใหม่. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
สรณบดินทร์ ประสารทรัพย์. (2561). ผลของการใช้วิธีสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอกช์ (MIA) ที่มีต่อการพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 2 (1), 175-186.
สรเดช บุญประดิษฐ์, ธนีนาฎ ณ สุนทร และชุติมา วัฒนะคีรี. (2564). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การสอนทักษะการอ่านแบบแผนภูมิความหมายและการสอนทักษะการอ่านแบบ SQ4R. วารสารการวัดผลการศึกษา, 38 (103), 54-69.
สังคร วิลัยศักดิ์. (2559). ระดับการส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษแก่นักเรียนของโรงเรียนมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย. วารสารศึกษาศาสตร์ มมร, 4 (2), 1-10.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สุลัยญา หะยีหามะ, มีชัย วงศ์แดง และกุสุมา ล่านุ้ย. (2564). การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสําคัญภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อจับใจความสําคัญของนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพครู คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 32 (3), 175-186.
อุดมลักษม์ กูลศรีโรจน์. (2554). การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนกลุ่มเสี่ยงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโดยใช้เทคนิคสแกฟโฟลดิง. วิทยานิพนธ์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
Afuwape, M.O., & Olugbuyi, A.L. (2019). Eradicating Poor Achievement in Basic Science and Technology through Learning Activity Package: How Do Students Behave in Nigeria?. Journal of Education in Black Sea Region, 5 (1), 15-25.
Mahsuri, M. (2021). Students’ Ability in Reading Comprehension of Da’wahand Islamic Communication Department at STAIN Bengkalis. Kaisa: Jurnal Pendidikan dan Pembelajaran, 1 (2), 142-152.
Oladehinde, A.A. (2001). Resource Utilization in Classroom. The Effect of Learning Activity Package to Teach Biology at the Senior Secondary School Level. Journal of Science Teachers Association of Nigeria (JSTAN), 40 (2), 103-106.
Unnanantn, T. (2021). Effects of Thinking and Language Learning Integrated Model to Better the Academic Reading Skill of English Teachers. Turkish Journal of Computer and Mathematics Education, 12 (12), 2034-2045.
Van Der Stuyf, R.R. (2002). Adolescent Learning and Development: Scaffolding as a Teaching Strategy. Online. Retrieved October 30, 2021. from : http://condor.admin.ceny. cuny.edu/~group4Van%20Der20Stuyf/Van*20Der920Stuy1*20Paper.doc
Vygotsky, L.S. (1978). Mind in Society: The Development of Higher Psychological Processes. Cambridge: Harvard University Press.
Wood, D., Bruner, J., & Ross, G. (1976). The Role of Tutoring in Problem Solving. Journal of Child Psychology and Psychiatry, 17 (2), 89-100.