สิทธิการตายตามธรรมชาติ : ศึกษากรณีการแสดงเจตนา ไม่ประสงค์รับการรักษาของผู้ป่วยและทายาท
Main Article Content
บทคัดย่อ
ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนาที่ก้าวหน้าและทันสมัย ที่สามารถช่วยเหลือและยื้อชีวิตมนุษย์ได้นานมากขึ้น แม้การรักษานั้นจะทำให้ชีวิตของผู้ป่วยไม่มีคุณภาพและไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ทำให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานกับการมีชีวิตเป็นอย่างมากก็ตาม ซึ่งในมุมมองทางการแพทย์ ทางด้านศาสนาและสังคมรวมถึงความชอบธรรมด้านกฎหมายในสภาวะที่มนุษย์ต้องเผชิญกับวาระสุดท้ายแห่งชีวิตในสภาพสิ้นหวังหมดหนทางในการรักษา ผู้ป่วยจึงมีสิทธิที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน โดยเลือกวิถีทางแห่งความตายด้วยเงื่อนไขใดได้บ้าง ทำให้ในหลายประเทศพัฒนากฎหมายขึ้นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การให้ผู้ป่วยตายอย่างสงบในวาระสุดท้ายของชีวิต จึงมีการนำแนวคิดเรื่อง “สิทธิการตายตามธรรมชาติ” ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกจบชีวิตของตนเองอย่างสงบไม่ทรมาน ซึ่งจากแนวคิดดังกล่าวมีการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขในด้านสิทธิการตายตามธรรมชาติ โดยให้ผู้ป่วยสามารถแสดงเจตจำนงในการใช้สิทธิการตายตามธรรมชาติได้ รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขให้ญาติแสดงเจตจำนงได้ในกรณีที่ผู้ป่วยอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถแสดงเจตจำนงด้วยตนเองได้ แต่ปัญหาทางกฎหมายซึ่งเห็นว่าในประเทศไทยมีเพียงพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 โดยมาตรา 12 ซึ่งการทำหนังสือแสดงเจตนา (Living Will) ถือเป็นการแสดงเจตนาของบุคคล และกฎหมายเองก็ไม่ได้บัญญัติรับรองถึงการใช้สิทธิปฏิเสธรับการรักษาแทนผู้ป่วยโดยญาติหรือ ผู้อุปการะดูแล ผู้เขียนจึงเห็นควร นำแนวความคิดและหลักเกณฑ์การปล่อยให้ผู้ป่วยตายอย่างสงบของต่างประเทศมาปรับใช้กับประเทศไทย เพื่อให้มีความชัดเจนและเหมาะสมกับแนวทางในการพัฒนาแนวความคิดและกฎหมายของประเทศไทยต่อไป
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ (2536). กฎหมายกับการปล่อยให้ตายอย่างสงบ. บทบัณฑิตย์. (พิมพ์ครั้งที่ 2) เล่มที่ 49 ตอน 4.
วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์, ทิษณุ เพ็งไพบูลย์ และอนันต์ บุญเกิด. (2559). การปล่อยให้ผู้ป่วยตายอย่างสงบกับความรับผิดทางอาญา. บทบัณฑิตย์, ล. 42, ตอน 3.
สิริทิพย์ สมใจ. (2562). ความยินยอมต่อการตายโดยสงบของผู้ป่วยเด็ก: ศึกษาเปรียบเทียบประเทศเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยมและสหราชอาณาจักร. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. 12 (1), 47-66.
ผดุงพล อรรถกิจไพบูลย์. (2555). ปัญหาทางกฎหมายและจริยธรรมในการรักษาโรคร้ายแรงของผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์: ศึกษากรณีการุณยฆาต.