รูปแบบการจัดการความรู้แนวพุทธเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ของตำบลศรีสุข อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาการจัดการความรู้แนวพุทธเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน 2) เพื่อศึกษาสภาพการจัดการความรู้แนวพุทธเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนของตำบลศรีสุข อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม 3) เพื่อนำเสนอรูปแบบการจัดการความรู้แนวพุทธเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนของตำบลศรีสุข อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร ตำราวิชาการ หนังสือ งานวิทยานิพนธ์ งานวิจัยต่าง ๆ และการเก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายโดยการสัมภาษณ์แบบเจาะจง จำนวน 35 รูป/คน สามารถสรุปผลการศึกษา ดังนี้
ผลการวิจัยพบว่า การจัดการความรู้แนวพุทธเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน หมายถึง กระบวนการสร้างความรู้ด้วยการนำหลักพระพุทธศาสนาซึ่งเน้นการบริหารจัดการองค์กรชุมชนพึ่งพาตนเองโดยใช้หลักธรรม สร้างความอยู่รอดขององค์กรชุมชน มีการใช้ประโยชน์จากศักยภาพและทรัพยากรที่องค์กรชุมชนมีอยู่สภาพการจัดการความรู้แนวพุทธเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนของตำบลศรีสุขมีโครงการที่ครอบคลุมเรื่องราวทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งในด้านเกษตรกรรม การยกระดับรายได้ สุขภาพอนามัย การศึกษา ในขณะเดียวกันก็ได้พยายามสอดแทรกการพัฒนาจิตใจเพื่อให้เกิดความสามัคคีในการทำงานและเกิดความสำนึกในประโยชน์สุขของส่วนรวม กิจกรรมต่าง ๆ
รูปแบบการจัดการความรู้แนวพุทธเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนของตำบลศรีสุข มีเป้าหมายและหัวใจสำคัญอันเป็นพื้นฐานชุมชนเข้มแข็ง คือความเข้าใจแก่นแท้ของชีวิตใน 5 ด้าน ได้แก 1) ด้านจิตใจ แม้จะประสบปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการทำงาน แต่พร้อมพยายามจะแก้ไขปัญหานั้นๆ ให้สำเร็จลุล่วงด้วยสติสัมปชัญญะ 2) ด้านเศรษฐกิจ ประชาชนมีการประกอบอาชีพที่มั่นคงมีรายได้เพียงพอต่อรายจ่าย ทั้งจากการประกอบอาชีพหลักสม่ำเสมอตลอดทั้งปีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านเทคโนโลยี และด้านสังคมสอดคล้องกับเกษตรทฤษฎีใหม่ซึ่งมีรากฐานอยู่ที่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นระบบ 3) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชาชนในชุมชนมีแหล่งน้ำใช้ในครัวเรือนและชุมชนอย่างเพียงพอตลอดปี ภายในชุมชนมีสภาพธรรมชาติแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์หรือวัตถุดิบอื่นๆ ที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์อย่างประหยัด 4) ด้านเทคโนโลยี ประชาชนมีเครื่องมือที่ใช้ในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม คุ้มค่าเพียงพอตามความต้องการ และเกิดประสิทธิภาพ เพราะได้นำเทคโนโลยีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ถูกหลักวิชาการ มีราคาไม่แพงมาใช้เพื่อช่วยผ่อนแรง มีความสะดวก รวดเร็ว หรือลดเวลาในการผลิต 5) ด้านสังคม ประชาชนพร้อมสมาชิกในครอบครัวทุกคนต่างก็มีความรักใคร่ กลมเกลียว สมัครสมานสามัคคีกัน เพื่อนบ้านในชุมชนยังยึดมั่นและร่วมกันปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และขนบธรรมเนียมประเพณี
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ที. เมเยอร์. (2550). อนาคตของสังคมประชาธิปไตย. แปลโดยสมบัติ เบญจศิริมงคล, กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ เอส. บี. คอนซัลติ้ง.
ประเวศ วะสี, (2550). การจัดการความรู้ : กระบวนการปลดปล่อยมนุษย์สู่ศักยภาพ เสรีภาพ และความสุข. (พิมพ์ครั้งที่ 2) กรุงเทพมหานคร : สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม,
เสรี พงศ์พิศ วิชิต นันทสุวรรณ และ จำนง แรกพินิจ. (2544). วิสาหกิจชุมชน แผนแม่บท แนวคิดแนวทางตัวอย่าง ร่างพระราชบัญญัติ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เจริญวิทย์การพิมพ์
เสรี พงศ์พิศ วิชิต นันทสุวรรณ และ จำนง แรกพินิจ. (2548). เครือข่าย. กรุงเทพมหานคร: สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน,
วิจารณ์ พานิช. (2549). การจัดการความรู้ ฉบับนักปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สุขภาพใจ.
สงวน สุทธิเลิศอรุณ. (2543). พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตน. กรุงเทพมหานคร: อักษราพิพัฒน์.
ยุวนุช ทินนะลักษณ์, (2549). ปริศนาภูมิปัญญาท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิถีทรรศน์.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิรัช วิรัชนิภาวรรณ. (2549). การพัฒนาเมืองและชนบทประยุกต์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ฟอร์เพซ.
Manville, (2001). Learning in the New Economy. Leader to Leader.
M. Alavi, and D.E.Leidner. (2001), “ Review : Knowledge Management and Knowledge Management System : Conceptual Foundations and Research lssues” . MIS Quarterly, Vol.27 (January 2001)