ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการออมและการก่อหนี้ของวัยทำงาน ก่อนและหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

บทคัดย่อ

          ผลการศึกษาพบว่า เงินออมสะสมและเงินออมเฉลี่ยลดลงหลังสถานการณ์ Covid-19 โดยการออมส่วนมากอยู่ในรูปแบบฝากประจำ นอกจากนี้มีวิธีการออมเงินที่มีการวางแผนการออมล่วงหน้าจากรายได้ โดยมีวัตถุประสงค์ส่วนใหญ่คือ การออมสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือเหตุการณ์เร่งด่วน สำหรับพฤติกรรมการก่อหนี้ที่พบว่าหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 และทำให้มีจำนวนหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือนหลังสถานการณ์ Covid-19 ลดลงตามไปด้วย จากการสอบถามแนวโน้มในสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับเงินออมและการก่อหนี้ในอนาคต โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นดังนี้ 1.การออมเงินไม่เพิ่มขึ้นเนื่องจากส่วนมากให้เหตุผลว่ารายได้น้อยลง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นจากราคาสินค้าที่แพงขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอที่จะออมเงินเพิ่ม 2.การก่อหนี้โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการเพิ่มภาระหนี้ เนื่องจากการผ่อนชำระหนี้เดิมยังไม่หมด นอกจากนี้สินค้าอุปโภคบริโภค มีราคาแพงขึ้น สำหรับการศึกษาทำให้ทราบผลต่าง ของจำนวนเงินออมและภาระหนี้สินก่อนและหลังสถานการณ์ Covid-19 พบว่าจำนวนเงินออมสะสมหลังหลังสถานการณ์ Covid-19 ลดลง จำนวนหนี้สะสมหลังสถานการณ์ Covid-19 ลดลง และจำนวนหนี้สินที่ต้องชำระต่อเดือนหลังสถานการณ์ Covid-19 ลดลง อย่างไรก็ตามจำนวนการออมเงินเฉลี่ยต่อเดือน ไม่มีความแตกต่าง
          สำหรับการศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออมและการก่อหนี้ของวัยทำงาน พบว่า 1.) ปัจจัยด้านสถานภาพโสดและด้านรายจ่าย 10,001-30,000 บาทต่อเดือน มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของเงินออมสะสมก่อนและหลังสถานการณ์ Covid-19 โดยมีผลทำให้จำนวนเงินออมสะสมหลังสถานการณ์ Covid-19 ลดลง 2.) ปัจจัยด้านรายได้ 10,001-30,000 บาทต่อเดือน มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของภาระหนี้สินสะสมก่อนและหลังสถานการณ์ Covid-19 โดยมีผลทำให้หนี้สินสะสมหลังสถานการณ์ Covid-19 ลดลง 3.)ปัจจัยด้านอายุที่ไม่เกิน 30 ปี ด้านระดับการศึกษาจบปริญญาตรี และด้านจำนวนผู้พึ่งพิงในครอบครัว/ภาระผูกพัน พบว่าส่วนมากไม่มีภาระผูกพัน มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของภาระหนี้สินที่ต้องชำระต่อเดือนก่อนและหลังสถานการณ์ Covid-19 โดยมีผลทำให้ภาระหนี้สินที่ต้องชำระต่อเดือนหลังสถานการณ์ Covid-19 ลดลง จากผลการศึกษาการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยเหตุผลการออมและการก่อหนี้ พบว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ทำให้ประชาชนวัยทำงานมีเงินออมลดลง มีการก่อหนี้เพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่มีอายุไม่เกิน 30 ปี สถานะภาพโสด มีอาชีพเป็นลูกจ้างเอกชน/พนักงานบริษัท ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนควรให้ความสำคัญกับการออมเงินในช่างอายุนี้ หรือมีการออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเงินออมของกลุ่มอาชีพที่เป็นลูกจ้างเอกชน/พนักงานบริษัท ที่มีรายได้ประจำที่แน่นอน