ปัจจัยการควบคุมภายในที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของนักบัญชี และผลการดำเนินงานขององค์กรในภาคตะวันตกของประเทศไทย

บทคัดย่อ

          งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยการควบคุมภายในที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของนักบัญชีและผลการดำเนินงานขององค์กรในภาคตะวันตกของประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง คือ นักบัญชีอิสระในพื้นที่ภาคตะวันตก จำนวน 384 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานใช้การทดสอบการวิเคราะห์สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Analysis) การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation) และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) โดยมีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
          ผลการวิจัยพบว่าภาพรวมของปัจจัยการควบคุมภายใน คือด้านสภาพแวดล้อมการควบคุม ค่าเฉลี่ย 4.47 (s.d.=0.30) ด้านการติดตามและประเมินผล ค่าเฉลี่ย 4.45 (s.d.=0.36) ด้านกิจกรรมการควบคุม ค่าเฉลี่ย 4.43 (s.d.=0.31) ด้านสารสนเทศและการสื่อสาร ค่าเฉลี่ย 4.43 (s.d.=0.32) และด้านการประเมินความเสี่ยง ค่าเฉลี่ย 4.33 (s.d.=0.31) อยู่ในระดับมากที่สุด และด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญ ค่าเฉลี่ย 4.15 (s.d.=0.521) ภาพรวมของประสิทธิภาพการปฏิบัติงานนักบัญชี คือด้านคุณภาพของงาน ค่าเฉลี่ย 4.51 (s.d.=0.32) ด้านมาตรฐานและความเชื่อถือได้ ค่าเฉลี่ย 4.49 (s.d.=0.30) ด้านความทันต่อเวลา ค่าเฉลี่ย 4.49 (s.d.=0.34) ด้านการบรรลุเป้าหมาย ค่าเฉลี่ย 4.48 (s.d.=0.29) ด้านความคุ้มค่า ค่าเฉลี่ย 4.46 (s.d.=0.34) อยู่ในระดับมากที่สุด และภาพรวมของผลการดำเนินงานขององค์กร คือด้านการวางแผนการดำเนินงาน ค่าเฉลี่ย 4.43 (s.d.=0.31) ด้านความยั่งยืนขององค์กร ค่าเฉลี่ย 4.43 (s.d.=0.36) อยู่ในระดับมากที่สุด