การนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 2) เปรียบเทียบสภาพการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 จำแนกตามขนาดสถานศึกษา และประสบการณ์ทำงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 จำนวน 343 คน ได้มาด้วยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง ใช้ตารางเทียบกลุ่มตัวอย่างของทาโรยามาเน และการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วน (Proportional Stratified Random Sampling) โดยใช้ขนาดสถานศึกษาเป็นชั้นในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม แบบมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.25 – 0.90 มีค่าความเชื่อมั่นแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และตรวจสอบความแตกต่างรายคู่ โดยวิธีการตรวจความแตกต่างของเชฟเฟ่ (Scheffe’)
ผลการวิจัยพบว่า
1. การนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
2. ผลเปรียบเทียบสภาพการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 จำแนกตามขนาดสถานศึกษา และประสบการณ์ทำงาน ดังนี้
2.1 การนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยภาพรวมการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษาไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการพัฒนาวิชาชีพ ด้านการพัฒนาทักษะการทำงานกลุ่ม ด้านการพัฒนาหลักสูตร และด้านการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน มีสภาพการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษาไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านการให้ความช่วยเหลือแก่ครูโดยตรง มีสภาพการนิเทศแตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05
2.2 การนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 5 จำแนกตามประสบการณ์ทำงาน เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมและรายด้าน แตกต่างต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ชาญชัย อาจินสมาจาร. (2554). การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาองค์การ. สงขลา: ชาญเมืองการพิมพ์.
นงค์นุช จอมเกาะ. (2563). การริเทศภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในอำเภอสีคิ้ว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 4. การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาลัยนครราชสีมา ครั้งที่ 8 ประจำปี 2464 "สู่วิถีใหม่ ด้วยวิจัยทางสุขภาพและการบริการ". 131-139.
ปนัดดา ศิริพัฒนกุล. ( 2558). การศึกษาบทบาทการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดระยองจันทบุรี และตราด. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
ไพศาล หวังพานิช. (2556). การวัดผลการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
เมธินี สะไร. (2560). การนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษากลุ่มสหพัฒนา อ าเภอรือเสาะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 1. การค้นคว้าอิสระ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5. (2564). แผนปฏิบัติราชการประจำปี 2564. ขอนแก่น: (เอกสารอัดสำนเนา).
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5. (2560). คู่มือประกอบการอบรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC (Professinal Learning Community) ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สู่สถานศึกษา.
สุทธนู ศรีไสย์. (2549). หลักการนิเทศการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุวิทย์ เมษินทรีย์. (2563). โลกเปลี่ยนคนปรับ หลุดจากกับดัก ขยับสู่ความยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
E.O. Akinloye G.M.and Olaoye,O.F. Adu. (2014). Internal and External School Supervision:Issues, Challenges and Wayforward. Int J Edu Sci. 7 (2), 269-278.
Glickman, Gordon,&Ross-Gordon. (2007). Supervisor and Supervision Curriculum Development. Boston: Allyn&Bacon.
Wallace, Willace, Wilcoxon and Satcher. “Productive and Nonproductive Counselor Supervision: Best and Worst Experiences of Supervisees” Journal of Alabama Counseling Association. 35, 2 (Spring 2010)