แนวทางการเสริมสร้างทักษะของผู้นำยุคใหม่ที่พึงประสงค์ของหน่วยงานกองทัพบก: กรณีศึกษา ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
ประเทศไทยได้มีการปรับเปลี่ยนไปอย่างมาก และแนวคิดผู้คนในสังคมได้รับอิทธิพลในการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จะเห็นได้จากความเห็นต่างมากมายในโลกอินเตอร์เน็ตหรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ความเป็นผู้นำจึงเป็นทักษะที่ควรปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เพื่อให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จได้ การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงทักษะของผู้นำยุคใหม่ที่พึงประสงค์ ของหน่วยงานทหารบกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น ปัจจัยในการเสริมสร้างทักษะของผู้นำยุคใหม่ที่พึงประสงค์ ของหน่วยงานทหารบกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น สถานการณ์ปัจจุบันของหน่วยงานทหารบกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น โดยการวิเคราะห์ซออาร์ และกำหนดแนวทางการเสริมสร้างทักษะผู้นำยุคใหม่ที่พึงประสงค์ ของหน่วยงานทหารบกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดขอนแก่น มีกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 120 ราย ใช้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล
ผลการวิจัยพบว่า
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะการเป็นผู้นำที่มีความสำคัญมากที่สุด คือ ความเอาใจใส่เพื่อนร่วมงานและให้เกียรติผู้อื่น (ค่าเฉลี่ย 4.23) และการสนับสนุนของผู้บังคับบัญชา (ค่าเฉลี่ย 4.23) การทำงานด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ (ค่าเฉลี่ย 4.30) มีระเบียบวินัย (ค่าเฉลี่ย 4.39) มีความตรงต่อเวลา (ค่าเฉลี่ย 4.38) มีความอดทน (ค่าเฉลี่ย 4.37) มีความรับผิดชอบ (ค่าเฉลี่ย 4.37) มีความกล้าหาญ (ค่าเฉลี่ย 4.28) มีความเสียสละ (ค่าเฉลี่ย 4.29) มีทัศนคติเชิงบวก (ค่าเฉลี่ย 4.25) มีความเมตตาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ (ค่าเฉลี่ย 4.25) มีคุณธรรมและจริยธรรม (ค่าเฉลี่ย 4.25) มีความน่าเชื่อถือ (ค่าเฉลี่ย 4.25) มีความประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี (ค่าเฉลี่ย 4.24) คอยช่วยเหลือหรือสนับสนุนเพื่อให้งานสำเร็จ (ค่าเฉลี่ย 4.21) และเมื่อนำผลไปวิเคราะห์ร่วมกับการวิเคราะห์ซออาร์ ทำให้สามารถออกแบบโครงการเสริมสร้างทักษะภาวะผู้นำยุคใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 ส่งเสริมทักษะของผู้นำยุคใหม่ที่พึงประสงค์ โครงการที่ 2 เสริมสร้างความผูกพันและความสุขในการทำงาน และโครงการที่ 3 เสริมสร้างทักษะการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน มุ่งเน้นการพัฒนาคุณลักษณะภาวะผู้นำนายทหารสัญญาบัตร และขยายผลไปสู่กำลังพลนายทหารประทวนทุกนาย ผลจากการดำเนินโครงการ ส่งผลให้กำลังพลที่เข้ารับการอบรม ได้รับประสบการณ์ และความรู้ใหม่ ๆ มีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาทางด้านจิตใจ การเปลี่ยนแปลงด้านการทำงานที่ดีขึ้น และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างชัดเจน ความรู้ใหม่ ๆ มีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาทางด้านจิตใจ การเปลี่ยนแปลงด้านการทำงานที่ดีขึ้น และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างชัดเจน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
เกียรติศักดิ์ กวีวรญาณ. (2555). แนวทางการพัฒนาบุคลากร เพื่อเสริมสร้างสู่ภาวะผู้นำ (ระดับบุคคล) โดยใช้เครื่องมือ Appreciative Inquiry กรณีศึกษา บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) จ.นครราชสีมา. สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ชนิดาภา หินเธาร์. (2559). การศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ โดยกระบวนการสุนทรียสาธก ของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น. สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
นันทวัน อินทชาต. (2560). การวิเคราะห์องค์ประกอบของคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้นำทางทหารในมุมมองของนักเรียนนายเรืออากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช. วารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์. 28 (3), 36-46.
ปิยะทัศน์ พาโสมมนัสสกุล. (2558). การพัฒนาสถานศึกษาโดยผู้นำพลังบวกด้วยวิธีการสุนทรียสาธก กรณีศึกษาโรงเรียนเอบีซี อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการทางธุรกิจและนวัตกรรมทางการจัดการระดับชาติและนานาชาติ ประจำปี 2558. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 257-293.
พร ภิเศก. (2556). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและโรงเรียนนายสิบทหารบก เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้นำหน่วยทหารขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์พัฒนาหลักนิยมและยุทธศาสตร์กรมยุทธศึกษาทหารบก.
สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2550). ภาวะความเป็นผู้นำ. กรุงเทพมหานคร: เอ็กซเปอร์เน็ท.
เอกราช ทองชั้น. (2556). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของผู้บริหาร บริษัทเบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัดสำนักงานนครราชสีมา โดยวิธีสุนทรียสาธก. สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
Dubrin, A.J. (2013). Leadership: Research Findings, Practice, and Skills. 7th ed. Australia: Cengage Learning.
Hersey, P., & Blanchard, K.H. (1974). “So you want to know your leadership style?”. Training & Development Journal 28 (2), 22-37.
Sekaran, U. and Bougie, R. (2016) Research Methods for Business: A Skill-Building Approach. 7th Edition, Wiley & Sons, West Sussex.
