คุณลักษณะความไว้วางใจของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานวิชาชีพครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาคุณลักษณะความไว้วางใจของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพครูในโรงเรียน 3) เพื่อศึกษาคุณลักษณะ ความไว้วางใจของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพครูในโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม ปีการศึกษา 2564 จำนวน 268 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วยวิธีของ เพียร์สัน การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า 1) คุณลักษณะความไว้วางใจของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียน ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในรายละเอียด พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการเปิดเผย รองลงมา คือ ด้านความเชื่อถือได้ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านความสามารถ 2) การปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานวิชาชีพครูในโรงเรียน ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในรายละเอียด พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชนรองลงมา คือ การปฏิบัติหน้าที่ครู ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การจัดการเรียนรู้ 3) คุณลักษณะความไว้วางใจของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์ ทิศทางบวกกับการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพครูในโรงเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และคุณลักษณะความไว้วางใจของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย ด้านความห่วงใย (X3) ด้านความสามารถ (X1) เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม โดยสามารถร่วมทำนายได้ร้อยละ 19.30 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
สมการคะแนนดิบ y ̂ = 88.217 + .785 (X3) + .448 (X1) (R2 = 0.99)
สมการคะแนนมาตรฐาน Z y ̂ = .325 Zx3 + .200 Zx1 (R2 = 0.193)
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กนก ขวัญเรือน. (2560). ความไว้วางใจหัวหน้างาน การรับรู้ลักษณะภาวะผู้นำตามแนวคิดตาข่ายบริหารงาน ผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ให้บริการทางโทรศัพท์ โดยมีการสื่อสารในองค์การเป็นตัวแปรสื่อ: กรณีศึกษา บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
กฤษณา พรหมชาติ และ วิษณุพงษ์ โพธิรุฬห์. (2003). การศึกษาอิทธิพลของภาวะผู้นำของผู้อำนวยการ โรงเรียนประถมศึกษาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของครูผ่านบทบาทตัวแปรคั่นกลางของความไว้วางใจ: แบบจำลองสมการโครงสร้างพหุระดับ. วารสารพฤติกรรมศาสตร์. 26. (1), 61-81.
กิติยวดี หนูเทพ. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างความไว้วางใจในองค์การและขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จังหวัดยะลา. วารสารวิชาการศิลปะศาสตร์ประยุกต์. 12 (2), 77-89.
ธนิตา เลาหภิชาติชัย และ มัทนา วังถนอมศักดิ์. (2560). คุณลักษณะของผู้บริหารและความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร
ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร. (2557). ความเสี่ยงทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2565. แหล่งที่มา; https://prakal.wordpress.com/2014/05/08/
ปริมใจ โพธิ์รักษา และ ทิพทินนา สมุทรานนท์. (2561). ความไว้วางใจในหัวหน้างาน ความยึดมั่นผูกพันในงานพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การและผลการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพใน โรงพยาบาลเอกชน. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. 4 (2), 249-273.
ภัทรวรรณ รอดเจริญ. (2563). การปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพของครูโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ จังหวัดสมุทรสาคร. มหาวิทยาลัยศิลปากร
ราชกิจจานุเบกษา. (2562). รายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2565. แหล่งที่มา: https://www.ksp.or.th/ksp2018/2020/06/19628/
ศิริชัย ศรีประทุมวงศ์และ รัตติกรณ์จงวิศาล. (2554). ความไว้วางใจในหัวหน้างานด้านความห่วงใยของพนักงานระดับปฏิบัติการในโรงงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์. วารสารวิชาการศิลปศาสตร์ประยุกต์. 3 (2), 10-19.
สุพิษ จุ้ยกลาง. (2550). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษากับ ความพึงพอใจในการทำงานของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษานครราชสีมา เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรสงคราม. (2564). ทะเบียนโรงเรียน สพป.สมุทรสงคราม. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2565. แหล่งที่มา: https://bigdata.skm.go.th/#
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (2562). รายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4)
สัมมา รธนิธย์. (2553). ทฤษฎีและปฏิบัติการบริหารการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: ข้าวฟ่าง
หทัยชนก เดชอุดม. (2563).ความผูกพันต่อองค์กรและความสุขในการทำงานส่งผลต่อการปฏิบัติงานของครู ในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานครเขต 1. วารสารบริหารการศึกษา มศว. 18 (34), 177-187.
Achua C.F. and Lussier, R.N. (2010). Effective Leadership. 4th Edition, Canada, South-Western.
Bakker and Demerouti. (2008). Towards a Model of Work Engagement. The Career Development International. 13, 209-223.
Dirks, K.T. and Ferrin, D.L. (2002) Trust in Leadership: Meta-Analytic Findings and Implications for Research and Practice. Journal of Applied Psychology.
Gabarro, J.J. (1987). The dynamics of taking charge. Boston: Harvard Business School Press.
Ganesan, S. (1994), Determinants of Long-Term Orientation in Buyer-Seller Relationship. Journal of Marketing
Hassan, A., & Ahmed, F. (2011). Authentic Leadership, Trust and Work Engagement. International Journal of Human and Social Sciences.
Mishra, A.K. (1996). Organizational Responses to Crisis: The Centrality of Trust. In: Kramer, R.M. and Tyler, T.R., E., Eds., Trust in Organizations, Sage, Thousand Oaks.
Robbins, S. P., & Judge, T. A. (2011). Organizational Behavior. Boston, MA: Prentice Hall.
Schaufeli, W. B., & Bakker, A. B. (2003). The Utrecht Work Engagement Scale (UWES): Test Manual. Utrecht: Utrecht University.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd Edition, Harper and Row, New York.