สวัสดิการ : เครื่องมือการวางแผนภาษีอากร
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้จะกล่าวถึงแนวคิดเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการ ภาระภาษีที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการและกลยุทธ์ในการวางแผนภาษีด้านสวัสดิการ ซึ่งหลักการจัดสวัสดิการที่ดี ได้แก่ หลักแห่งความจูงใจ หลักแห่งการตอบสนองความต้องการ หลักแห่งประสิทธิภาพ หลักแห่งการประหยัด หลักแห่งความสะดวก หลักแห่งการบริหารต่อเนื่องทันเวลา หลักแห่งประโยชน์ หลักแห่งความยืดหยุ่น และหลักแห่งงบประมาณ สวัสดิการของลูกจ้างหรือพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาระภาษี ได้แก่ เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกจ้าง ได้รับเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าจ้าง ประเภทภาษีที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม กลยุทธ์ในการวางแผนภาษีเกี่ยวกับสวัสดิการมี 6 กลยุทธ์ ได้แก่ ควรให้สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ผู้บริหารและพนักงานไม่ต้องเสียภาษีและนายจ้างมีสิทธิหักเป็นรายจ่ายได้ ควรให้สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ผู้บริหารและพนักงานสามารถลดหย่อนภาษีและนายจ้างมีสิทธิหักเป็นรายจ่ายได้ ควรให้สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่นายจ้างสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในจำนวนมากกว่าที่จ่ายจริง นายจ้างต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายและนำส่งให้ถูกต้องครบถ้วน กรณีมีการออกภาษีให้แก่ผู้บริหารและพนักงานทุกทอดต้องคำนวณภาษีแบบทศนิยมไม่รู้จบและควรมีข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร และ สวัสดิการต้องทำเป็นระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับและไม่เลือกปฏิบัติ สรุปได้ว่า การจัดสวัสดิการที่ดีสามารถช่วยลดภาระภาษี ประหยัดภาษี ได้ทั้งในส่วนของผู้ให้ สวัสดิการ (นายจ้าง) และผู้รับสวัสดิการ (ลูกจ้าง) การจัดสวัสดิการจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวางแผนภาษีอากร
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2566). สวัสดิการแรงงาน. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2566.แหล่งที่มา : https://lb.mol.go.th
กิ่งพร ทองใบ. (2553). ระบบค่าตอบแทนสมัยใหม่จากวิชาการสู่วิชาชีพ. กรุงเทพมหานคร: เอช อาร์ เซ็นเตอร์.
เฉลียว ไชยเชษฐ์. (2558). การจัดสวัสดิการที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการสาธารณะ. วิทยาลัยพาณิชย์ศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา.
ดุลยลักษณ์ ตราชูธรรม. (2555). กลยุทธ์การวางแผนภาษีเกี่ยวกับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของผู้บริหารและพนักงาน. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สถาบัน T Training Center.
ธนบูรณ์ ใจตั้งมั่น. (2563). ภาระภาษีสวัสดิการลูกจ้างหรือพนักงาน. สรรพากรสาส์น. 67 (3), 69-74.
เพ็ญศรี ฉิรินัง. (2562). การจัดการทรัพยากรมนุษย์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). นครปฐม: พีพีก็อปปี้.
เพิ่มบุญ แก้วเขียว. (2551). การบริหารภาษีทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ธนธัชการพิมพ์จำกัด.
ไพโรจน อุลิต. (2547). การบริหารทรัพยากรมนุษย. กรุงเทพมหานคร: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาเจาคุณทหารลาดกระบัง.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2561). เอกสารการสอนชุด การบัญชีภาษีอากรและการวางแผนภาษีอากร. นนทบุรี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
โยธิน ศันสนยุทธ และจุมพล พูลภัทรชีวิน. (2529). จิตวิทยาสังคม. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.
วิจิตร ฟุ้งลัดดา. (2533).รวมกฎหมายแรงงาน. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุรางค์รัตน์ วศินารมณ์. (2540). สวัสดิการในองค์กร: แนวคิดและวิธีการบริหาร. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2566). สวัสดิการและประโยชน์เกื้อกูลของราชการ. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2566. แหล่งที่มา : https://www.ocsc.go.th/compensation
อนิวัช แก้วจำนงค์. (2554). การจัดการทรัพยากรมนุษย์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). สงขลา: ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยทักษิณ.
Beach,Dales. (1965). Personnel: The Management of people at work. (3rd ed.). New York: Maomillan.
Dessler, Gary. (2009). A Framework for Human Resource Management. (5th ed.). New Jersey: Pearson Education.