นิเวศวัฒนธรรม การประกอบสร้างอัตลักษณ์ และการออกแบบนวัตกรรมสังคม โดยชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ฝั่งตะวันออก (ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และยโสธร)
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงด้านนิเวศวัฒนธรรมในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ฝั่งตะวันออก อันเนื่องมาจากวาทกรรมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (2) เพื่อศึกษาการประกอบสร้างอัตลักษณ์ที่ใช้ในการนิยามตนเอง และ (3) เพื่อออกแบบนวัตกรรมสังคมโดยชุมชนในรูปแบบเครือข่ายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยการวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย การสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง การสนทนากลุ่ม และการระดมความคิดเห็น กับกลุ่มเป้าหมายและผู้ให้ข้อมูลสำคัญ เพื่อร่วมกันออกแบบนวัตกรรมสังคมการพัฒนาเชิงพื้นที่ต่อไป
ผลการวิจัยพบว่า (1) ทุ่งกุลาร้องไห้ฝั่งตะวันออก มีความเปลี่ยนแปลงด้านนิเวศวัฒนธรรม จำแนกออกเป็น 5 สมัย คือ สมัยธรณีสัณฐาน (ก่อนประวัติศาสตร์) สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยปฏิรูปการปกครอง สมัยหัวเลี้ยวหัวต่อ และสมัยปัจจุบัน (หลังสมัยใหม่) (2) การประกอบสร้างอัตลักษณ์ที่ใช้ในการนิยามตนเอง พบทั้งอัตลักษณ์ที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ โดยการผลิตชุดความคิดทางอัตลักษณ์ดังกล่าว มีเป้าหมาย คือ การยอมรับ การต่อรอง และการต่อต้าน และ (3) การออกแบบนวัตกรรมสังคมโดยชุมชน พบว่ามี 10 นวัตกรรม ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมตัวชี้วัดการพัฒนาอย่างยั่งยืน P1 – P5 โดยมีการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนที่มุ่งเน้นการพัฒนา 5 ระดับ คือ งานพัฒนาผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่ งานพัฒนาศักยภาพแกนนำกลุ่ม/องค์กรชุมชนให้เข้มแข็ง งานพัฒนากลุ่มองค์กรต้นแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการ งานพัฒนาเพื่อยกระดับเครือข่ายความร่วมมือทุกระดับ และงานพัฒนาพื้นที่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด และกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัด (OSM) ที่จะเชื่อมโยงพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ฝั่งตะวันออกเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
จักรมนตรี ชนะพันธ์. (2566). ทุ่งกุลา “ไม่ร้องไห้” ใครกล่าวไว้คนแรก?. กรุงเทพมหานคร: มติชน.
ฉัตรวรัญช์ องคสิงห. (2563). การเปลี่ยนเชิงระบบของวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ. ปทุมธานี : สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต.
ชล บุญนาค. (2561). โครงการประสานงานการวิจัยเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs). กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
ชานนท์ โกมลมาลย์. (2561). กลนวัตกรรมทางสังคมเพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะโดยการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน. กรุงเทพมหานคร: เอซีปริ้นติ้ง เซอร์วิส.
ณฤณีย์ ศรีสุข. (2564). นิเวศวิทยาวัฒนธรรมเชิงพุทธบูรณาการ. ลำปาง: วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง.
พีระพงศ์ ฐิตธมฺโม. (2560). การจัดการนิเวศวิทยาวัฒนธรรมของเครือข่ายวัฒนธรรมและกลุ่มชาติพันธุ์. ในจังหวัดเพชรบูรณ์. เพชรบูรณ์: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พ่อขุนผาเมือง.
ภาสกร บุญคุ้ม และรัตนา ด้วยดี. (2566). การพัฒนาที่ยั่งยืน : การขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยงานวิจัย. กรุงเทพมหานคร: ที่ประชุมสภาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย.
มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน. (2542). ชุมชนโบราณบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน.
สุกัญญา เบาเนิด. (2553). โบราณคดีในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้. อุบลราชธานี: สำนักศิลปากรที่ 11 กรมศิลปากร.
สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2546). ทุ่งกุลา “อาณาจักรเกลือ” 2,500 ปี จากยุคแรกเริ่มล้าหลัง ถึงยุคมั่งคั่งข้าวหอม.กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มติชน.
สุทธิพงศ์ วรอุไร. (2565). การพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และการศึกษาความคิดเห็นของนิสิตต่อประเด็น “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยใช้แนวคิดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ในรายวิชาพลเมืองวิวัฒน์. กรุงเทพมหานคร: สถาบันรัชต์ภาคย์.
สุภาพ บุญไชย. (2546). ภูมิศาสตร์อีสาน : ตำนานทุ่งกุลาร้องไห้. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
อรรถพล ศิริเวชพันธุ์. (2565). ความเป็นอื่น การนิยามตนเอง และการประกอบสร้างอัตลักษณ์การท่องเที่ยวจากส่วนกลาง: กรณีศึกษาเมืองถูหลู่ฟาน เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Du Gay P. (1997). Production of Culture/Cultures of Production. London: Sage.
Smith, P. B. (2006). Social identity theory in cross-cultural perspective. Oxfordshire: Taylor & Francis.