การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสังคมศึกษาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยาโดยใช้ชุดกิจกรรม กับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียนรายวิชาสังคมศึกษาโดยใช้ชุดกิจกรรม 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษาก่อนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปกติ และ 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษาโดยใช้ชุดกิจกรรมกับการจัดการเรียนรู้แบบปกติของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3   โดยใช้ชุดกิจกรรมและการจัดการเรียนรู้แบบปกติ เป็นการวิจัยแบบทดลองประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 1 และห้อง 6 จำนวน 42 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ทดลอง คือ นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 8 จำนวน 30 คน และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ควบคุม คือ นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 7 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) ชุดกิจกรรมรายวิชาสังคมศึกษา 2) แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา โดยใช้ชุดกิจกรรม 3) แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษาโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปกติ 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษา มีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ เท่ากับ 0.73 การวิเคราะห์ผลโดยใช้การหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพนวัตกรรม      การทดสอบค่าที (t-test for Independent sample)
          ผลการวิจัยพบว่า 1) ชุดกิจกรรม รายวิชาสังคมศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.27/81.87 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษาโดยใช้ชุดกิจกรรม หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษา โดยการจัดการเรียนรู้แบบปกติหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ 0.05 และ 4) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษาโดยใช้ชุดกิจกรรมสูงกว่าการจัดการเรียนรู้แบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05