มาตรการทางกฎหมายในการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลก ทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
ศึกษาแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยศึกษาความคิดเห็นของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และปัญหาข้อกฎหมายในการปฏิบัติงานเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนา และการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแก้ไขให้การอนุรักษ์มรดกโลกเป็นไปอย่างยั่งยืน
ศึกษาประวัติ ความเป็นมา แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อให้ทราบถึงปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมศึกษาเปรียบเทียบหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับและเสนอแนะแนวทางกฎหมายที่เหมาะสมกับการบริหารจัดการเพื่ออนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยและต่างประเทศ
วิเคราะห์แนวทางกฎหมายที่เหมาะสมในการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยศึกษาปัญหาข้อกฎหมายของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการกำหนดหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการ ปัญหาการบริหารจัดการเขตพื้นที่มรดกโลกทางวัฒนธรรม และปัญหาการไม่มี ส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรม ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์พบว่า ตามแนวทางการอนุวัติตามอนุสัญญาฯ กำหนดให้รัฐภาคีสมาชิกต้องแบ่งพื้นที่จัดการมรดกโลกทางวัฒนธรรมออกเป็นอย่างน้อย 2 เขต ได้แก่ เขตพื้นที่คุ้มครองโบราณสถานที่ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างใด ๆ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากเป็นไปเพื่อการอนุรักษ์ และเขตพื้นที่แนวกันชนมีไว้เพื่อคุ้มครองเขตพื้นที่คุ้มครองโบราณสถานโดยเฉพาะด้านภูมิทัศน์
ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย เกิดจาก (1) ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการไม่มีส่วนร่วมของประชาชน ในการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมส่งผลให้ประชาชนขาดสำนึกของการเป็นเจ้าของร่วม และมีส่วนรับผิดชอบในมรดกโลกทางวัฒนธรรม จากปัญหาดังกล่าวข้างต้นทำให้การบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร (2) ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรม อันได้แก่ การกำหนดเขตพื้นที่โบราณสถาน หรือมรดกทางวัฒนธรรม, การแบ่งเขตการใช้ประโยชน์ในพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรมหรือมรดกโลกทางวัฒนธรรม และการบริหารจัดการด้านระบบบริการสาธารณะ และโครงสร้างพื้นฐานของเมืองอันที่เป็นที่ตั้งของมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลให้เกิดการทับซ้อนของอำนาจในการบริหารจัดการเขตพื้นที่โบราณสถานที่มีความคาบเกี่ยวกับความเป็นเมืองของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มรดกโลกทางวัฒนธรรม มีการกำหนดเขตพื้นที่โบราณสถานทับลงบนชุมชนที่มีอยู่เดิม ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ (3) ปัญหาทางกฎหมายในการกำหนดหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรม เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครอง ป้องกัน และอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมให้สอดคล้องตามอนุสัญญาฯ รวมถึงหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทในกรณีที่เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการมรดกโลก ซึ่งปัญหาการไม่มีหน่วยงานดังกล่าวทำให้เกิดการใช้อำนาจหน้าที่ของ แต่ละหน่วยงานภายใต้พระราชบัญญัติที่มีฐานะเท่าเทียมกัน ส่งผลให้เกิดปัญหาการใช้อำนาจทับซ้อนกันระหว่างหน่วยงาน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
จิรานุช โสภา และคณะ. (2554). รายงานวิจัยเรื่อง ศักยภาพการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเมืองมรดกโลกของประเทศไทยกรณีศึกษา: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย- ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชรและอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต.
ชลธี เจริญรัฐ. (2551). รายงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแหล่งมรดกโลก บ้านเชียง. อุดรธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
หมายเหตุอาเซียน. (2564). มรดกโลกในไทย 1: แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฏาคม 2567. แหล่งที่มา: http:// aseannotes.blogspot.com/2014/07/1_2378.html
พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535.
พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549
พระราชบัญญัติโบราณสถานฯ พ.ศ. 2535
พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562.
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ พ.ศ.2559