การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมการตระหนักรู้ในตนเองตามแนวคิด CASEL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างและตรวจสอบคุณภาพของโปรแกรมส่งเสริมการตระหนักรู้ในตนเองตามแนวคิด CASEL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เปรียบเทียบการตระหนักรู้ในตนเองก่อนและหลังเรียนด้วยโปรแกรมส่งเสริมการตระหนักรู้ในตนเองตามแนวคิด CASEL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเข้าร่วมโปรแกรม ดำเนินการวิจัยด้วยกระบวนการวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านแม่ละเมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 จำนวน 14 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง แบบแผนการทดลองกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลัง ระยะเวลา 12 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) โปรแกรมส่งเสริมการตระหนักรู้ในตนเอง 2) แบบประเมินการตระหนักรู้ในตนเอง และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบวิลคอกซัน
ผลการวิจัยพบว่า
1. โปรแกรมที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการและเหตุผล 2) วัตถุประสงค์ 3) กลุ่มเป้าหมาย 4) โครงสร้างเนื้อหาและกิจกรรม 5) ระยะเวลา และ 6) การวัดและประเมินผล ผลการประเมินความเหมาะสมของโปรแกรม พบว่าอยู่ในระดับมาก ( = 4.35, S.D.= 0.73) ผลการศึกษานำร่อง พบว่าโปรแกรมมีความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติ
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีการตระหนักรู้ในตนเองหลังการทดลองใช้โปรแกรมสูงกว่าก่อนการทดลองใช้โปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความคิดเห็นต่อการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ตามโปรแกรมอยู่ในระดับมาก ( = 3.86, S.D.= 0.58)
Article Details
เอกสารอ้างอิง
จักรกฤษณ์ จันทะคุณ. (2557). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างจิตสำนึกในการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ ตามแนวคิดจิตตปัญญาศึกษา สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
บุญชม ศรีสะอาด. (2537). พัฒนาการสอน (Vol. 1). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
รังสิรัศม์ นิลรัตน์. (2553). การพัฒนาโปรแกรมการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สงัด อุทรานันท์. (2532). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาการศึกษาคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุขุมาล เกษมสุข. (2548). การปลูกฝังจริยธรรมแก่เด็ก. กรุงเทพมหานคร: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
อุมาพร ตรังคสมบัติ. (2544). สร้าง EQ ให้ลูกคุณ. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์วิจัยและพัฒนาครอบครัวจำกัด.
Boyle, Patrick G. (1981). Planning better programs. New York : Mc Graw-Hill.
CASEL. (2010). The benefits of school-based social and emotional learning programs: Highlights from a major new report. Chicago, IL: Collaborative for Academic, Social, and Emotional Learning. Online. Available from: http://www. casel.org
Merrell,K. W., Juskelis, M.P., Tran, O. K., and Buchanan, R. (2008). Social and emotional learning in the classroom: Evaluation of strong kids and strong teens on students' social-emotional knowledge and symptoms. Journal of Applied SchoolPsychology, 24 (2), 209-224.
Washburn, I. J. (2010). Evaluation of a social-emotional and character developmentprogram. Oregon:OregonStateUniversity.